arrow-prev ย้อนกลับ
10 ตุลาคม 2565
โดย: พันธกานต์ ทานนท์

นวัตกรรมการผลิตรายการออนไลน์เพื่อให้ความรู้โควิด-19 สําหรับคนหูหนวก กรณีศึกษา รายการคนหูหนวกรู้สู้โควิด Live

พันธกานต์ ทานนท์

Received:08/23/2022 Revised:10/25/2022 Accepted:10/27/2022

นวัตกรรมการผลิตรายการออนไลน์เพื่อให้ความรู้โควิด-19 สําหรับคนหูหนวก

กรณีศึกษา รายการคนหูหนวกรู้สู้โควิด Live

บทคัดย่อ

งานวิจัยชิ้นนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการผลิตรายการ รูปแบบ และเนื้อหาของรายการ คนหูหนวกรู้สู้โควิด Live โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาข้อมูล 2 ส่วน คือ 1. การวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายการ โดยการจัดสนทนากลุ่ม และ การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตรายการ จํานวนทั้งสิ้น 12 คน และ 2. การวิเคราะห์เนื้อหารายการ โดยศึกษา จากการวิเคราะห์คลิปรายการ จํานวนทั้งสิ้น 24 ตอน รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ผลการวิจัยพบว่า รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ถือเป็นนวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวก ในรูปแบบรายการสด ผ่านการสตรีมมิ่งในเฟซบุ๊กและยูทูบด้วยภาษามือเต็มจอ โดยมีพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามือ ดําเนินรายการร่วมกัน ผู้ชมทั้งคนดีและคนหูหนวกสามารถรับชมรายการไปพร้อมกันโดยไม่ต้องมีบริการเสริม เป็นการทํางานของสื่อแบบ Born Accessible ที่สร้างความเท่าเทียมให้คนหูหนวกในการรับสื่อและการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ผ่าน 4 ขั้นตอนในการผลิตรายการ ซึ่งเกิดจากการวางแผน เตรียมงานจากผู้ผลิตรายการที่มีประสบการณ์การทํางานกับคนหูหนวก โดยได้สํารวจข้อมูลเพื่อศึกษารูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนํา เสนอ จากคนหูหนวก ล่ามภาษามือ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างสรรค์รายการให้สอดรับกับความต้องการและธรรมชาติการรับสื่อของคน หูหนวกมากที่สุด คนหูหนวกเข้ามามีบทบาทและการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมใน 2 ระดับ คือ 1. การมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร 2. การ มีส่วนร่วมในฐานะผู้ผลิตรายการ ส่วนรูปแบบของรายการนั้นจะวางความสําคัญในการนําเสนอของทั้งพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก อย่างเท่าเทียม มีการใช้ภาพ วิดีโอ ประกอบในรายการเพื่อสร้างความเข้าใจ รายการแบ่งช่วงรายการออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการให้ ความรู้ด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญ กับช่วงเล่นเกมตอบคําถาม โดยผู้ชมสามารถฝากคําถามในรายการได้ 4 รูปแบบ คือ 1. ข้อความ 2. คลิปวิดีโอ 3. ถามสดร่วมจอขณะถ่ายทอดสด และ 4. คอมเมนูต์ขณะถ่ายทอดสด ส่วนทางด้านเนื้อหา พบว่า รายการจะคัดเลือก ประเด็นในการนำเสนอเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในช่วงที่มีวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 รวมไปถึงประเด็นสุขภาพอื่น ๆ ใกล้ตัว แล้วนำ มาย่อยประเด็นให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งผู้ชมสามารถร่วมกำหนดประเด็นหรือหัวข้อ ที่สนใจมาทางรายการได้ สิ่งเหล่านี้เอื้อต่อ การใช้ประโยชน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกได้อย่างเต็มที่

คำสำคัญ: คนหูหนวก นวัตกรรมการผลิตรายการออนไลน์ คนหูหนวกรู้สู้โควิด Live โควิด-19

บทนำ

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สื่อเป็นที่พึ่งสำคัญในการให้ข้อมูลสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งการนำเสนอข่าวสารการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน การแพร่เชื้อ วิธีการป้องกันตนเอง หรือมาตรการต่าง ๆ จากรัฐบาล ส่งผล ต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้คนในสังคมต้องคอยติดตามข่าวสาร เพื่ออัปเดตและเป็นความรู้ในการป้องกัน ตนเองและคนในครอบครัว แต่ท่ามกลางข้อมูลในภาวะวิกฤติที่ถูกสื่อสารออกมานั้น กลุ่มคนหูหนวกกลับต้องเผชิญกับปัญหาใน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ไม่ชัดเจน ผลกระทบจากการเว้นระยะห่างทางสังคม และการเข้าไม่ถึงการเยียวยาต่าง ๆ จากภาครัฐดัง ที่สุชาดา จิตรสุภาพ (อ้างถึงในคชรักษ์ แก้วสุราช, 2563) ล่ามภาษามือที่มีประสบการณ์ทำงานใกล้ชิดกับคนหูหนวกมานานกว่า 20 ปี อธิบายว่า "ช่วงแรกที่เกิดโควิด-19 เป็นปัญหากับคนหูหนวกมาก เพราะข่าวสารมีความหลากหลาย และยังไม่ได้รับการก ลั่นกรอง คนหูหนวกคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เขาวิตกจริตมากเพราะไม่แน่ใจว่าสาเหตุของโรคมาจากไหน ค้างคาวหรืองู ตกลงแล้วมา จากไหนกันแน่ ซึ่งเราเองก็ได้แต่ตอบว่าไม่มั่นใจ เพราะเวลานั้นยังไม่มีใครทราบ แต่คนหูหนวกยิ่งเครียดยิ่งกังวลมากกว่า เพราะ เขาไม่มีข้อมูลเลยว่า ติดกันแบบไหน คนสู่คนหรือไม่ ป้องกันอะไรได้บ้าง ช่วงที่ทุกคนต้องการข้อมูลข่าวสาร ก็เป็นช่วงที่คนหูหนวก ต้องการเหมือนกัน แต่กลับไม่มีข้อมูลที่เข้าถึงได้"

การนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และการส่งเสริมการเข้าถึงชุดความรู้ต่อกลุ่ม คนหู หนวกก็เช่นกัน ซึ่งทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สส.) ได้เล็งเห็นความสำคัญในส่วนนี้จึงได้ร่วมมือกับ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผลิตรายการ "คนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live" เป็นรายการออนไลน์ที่ออกอากาศสด ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจคนหูหนวกรู้สู้โควิด และยูทูU Thai Deaf TV ทุกวันศุกร์ เวลา 19.30-20.30 น. ออกอากาศครั้งแรกเมื่อ วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ 2564 มีจำนวนรายการทั้งสิ้น 24 ตอน รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ถือเป็นรายการออนไลน์ที่ออก อากาศสดเต็มรูปแบบที่มีล่ามภาษามือเต็มจอ มีเนื้อหารายการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้กับคนหูหนวกโดยเฉพาะ เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำเสนอ โดยใน รายการจะมีทั้งพิธีกรคนหูหนวก พิธีกรคนหูดี และล่ามภาษามือ พร้อมทั้งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ จากหน่วยงานทางด้าน สาธารณสุข ที่จะหมุนเวียนมาให้ความรู้ในแต่ละตอนอีกด้วย

ด้วยความน่าสนใจของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ที่ถือว่า เป็นนวัตกรรมการผลิตรายการออนไลน์ที่ออกอากาศสด เต็มรูปแบบครั้งแรกเพื่อคนหูหนวก เป็นรายการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดใหม่ของไวรัสโควิด-19 และยังเป็น รายการที่สร้างการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก รวมทั้งการนำเสนอทั้งรูปแบบและเนื้อหารายการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมที่เป็นกลุ่ม เฉพาะอย่างคนหูหนวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เพื่อนำไปใช้ดูแลตนเองและครอบครัวในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี จึงนำมาสู่ ความสนใจของผู้วิจัยที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตรายการว่าจะมีกระบวนสร้างสรรค์รายการอย่างไรบ้าง การวางแผน ตั้งแต่การคิดประเด็น เนื้อหา การคัดเลือกวิทยากร การมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในรายการ รวมทั้งประเด็นปัญหาและอุปสรรคที่ พบในการผลิตรายการ และศึกษารูปแบบและเนื้อหาของรายการ เพื่อสามารถนำความรู้ที่ได้จากการวิจัยไปพัฒนารายการสำหรับ การผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกต่อไปในอนาคต

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อศึกษากระบวนการผลิตรายการในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

2. เพื่อศึกษารูปแบบและเนื้อหาของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

การทบทวนวรรณกรรม

นวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวก

ผู้วิจัยพบข้อมูลรายการที่มีนวัตกรรมในการผลิตรายการทั้งรายการบันทึกเทปที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ และรายการออนไลน์ ที่เผยแพร่ทางยูทูบและเว็บไซต์ ดังนี้ รายการหัตถภาษานานาข่าว ถือเป็นรายการข่าวภาษามือแห่งแรกของประเทศไทยที่ใช้ผู้ประกาศเป็นคนหูหนวกและใช้ ภาษามือในการนำเสนอข่าว โดยทดลองออกอากาศทางยูทูบและเว็บไซต์ (voice on line, 2554) และการเกิดขึ้นของรายการ Deaf Channel ซึ่งสำนักงาน กสทช. จัดทำเป็นรายการต้นแบบ ดำเนินการผลิตโดยสถานีโทรทัศน์ภาษามือเพื่อคนหูหนวก Thai Deaf TV ของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และร่วมสนับสนุนช่องทางการออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ โดยสมาคมคนหูหนวกแห่ง ประเทศไทยมีส่วนร่วมในการกำหนดประเด็นเนื้อหา และมีพิธีกรหูหนวกเป็นรายการแรก ถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่นำเสนอด้วยภาษา มือเต็มจอรายการแรกบนจอโทรทัศน์ประเทศไทย และยังมีคำบรรยายแทนเสียง และเสียงพากย์ เพื่อให้ทุกคนสามารถรับชมร่วมกัน ได้ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ TNN 2 ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 8 และชมผ่านจานดาวเทียมระบบอื่น ๆ และแอปพลิเคชัน HTV ในสมา ร์ตโฟนและแท็บเล็ต (ตรี บุญเจือ, 2562, น.140) และหลังจากนั้นมีการพัฒนาการผลิตรายการในลักษณะดังกล่าว ออกมาให้เห็นทาง สถานีโทรทัศน์อีกหลายรายการ

ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ได้เปิดตัว VIPA ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม OTT ถือเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงเจ้า แรกในประเทศไทย ที่พัฒนานวัตกรรมใหม่ Big Sign ภาษามือใหญ่เต็มจอ โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา ซึ่งกลุ่มผู้ ชมคนหูหนวกสามารถเลือกรับชมเนื้อหาระหว่างจอภาพปกติและจอภาพ Big Sign สามารถเข้าถึงสาระประโยชน์ควบคู่ความบันเทิง ได้พร้อม ๆ กับกลุ่มผู้ชมคนหูดี เข้าถึงเนื้อหาทุกรูปแบบได้อย่างเท่าเทียม (คมชัดลึก ออนไลน์, 2565) จากการทบทวนข้อมูลเกี่ยว กับนวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกในประเทศไทย ทำให้เห็นถึงแนวทางและรูปแบบการผลิตรายการที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อ แก้ไขปัญหาการรับสื่อของคนหูหนวก โดยการศึกษาครั้งนี้ได้ศึกษาการผลิตรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ซึ่งถือเป็นรูปแบบการ ผลิตรายการที่ใช้นวัตกรรมการผลิตด้วยการใช้ทคโนโลยีการสื่อสารในรูปแบบรายการสดผ่านการสตรีมมิงในเฟซบุ๊กและยูทูบ ด้วย ภาษามือเต็มจออีกด้วย

แนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการผลิตรายการ

Wetzel (1990 อ้างถึงในอลิสา ชินคงอำนาจ, 2560, น. 12) กล่าวไว้ว่า การผลิตรายการหลาย ๆ ประเภทจะถ่ายทำกันใน ห้องจัดรายการ โดยมีการวางแผนและเตรียมงานมาเป็นอย่างดีก่อนการถ่ายทำรายการทุกครั้ง โดยทั่วไปการผลิตรายการประกอบไป ด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ขั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ (Preproduction Planning ของการวางแผน ประชุมบุคลากรฝ่ายต่าง ๆ เตรียมงานให้พร้อมก่อนการบันทึกเสียง หรือการถ่ายทำรายการ นับเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญมาก 2. ขั้นเตรียมการผลิตรายการ เป็นขั้นตอนที่ประกอบด้วยการจัดเตรียม และการซ้อม 3. ขั้นการผลิตรายการ คือ ขั้นตอนของการบันทึกเทปรายการหรือถ่ายทอด สด หลังจากที่ทีมงานทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีในวันถ่ายทำจริงจะเป็นการรวมทีมงานมาประจำที่ห้องสตูดิโอหรือพื้นที่ ที่กำหนดให้เป็นสถานที่ถ่ายทำ เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในขณะบันทึกเทปหรือออกอากาศสด และ 4. ขั้นหลังการผลิตรายการ เป็น ขั้นตอนการตัดต่อรายการและประเมินผลการทำงานของทีมงานนับเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตรายการ โดยผู้วิจัยนำแนวคิดนี้มา ใช้เพื่อศึกษาถึงกระบวนการผลิตรายการคนหูหนวกสู้โควิด Live

แนวคิดการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม

แนวคิดการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม เมื่อนำใช้ในการศึกษาเรื่องการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในกระบวนการผลิตรายการคนหู หนวกรู้สู้โควิด Live จึงจำเป็นต้องเข้าใจในระดับของการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก โดยผู้วิจัยใช้ระดับของการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม ของกาญจนา แก้วเทพ และคณะ (2543) เป็นพื้นฐาน ซึ่งได้แบ่งระดับการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมไว้ 3 ระดับ ดังนี้ 1) การมีส่วนร่วมใน ฐานะผู้ชม/ผู้รับสาร/ ผู้ใช้สาร เป็นขั้นตอนระดับล่างสุดของการมีส่วนร่วมได้แก่ การรับชมรายการอยู่เสมอ จดหมายหรือโทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็น ติชม เสนอแนะ รายงานผลการรับชมให้ผู้ผลิตทราบเป็นตัวแทนส่งข่าวสาร ร่วมแจ้งข่าวสารตรวจสอบข่าวสาร กับพื้นที่ร้องทุกข์ ร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ร่วมงานและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เสนอแนะรูปแบบรายการ ช่วยประชาสัมพันธ์ รายการ ฯลฯ 2) การมีส่วนร่วมในฐานะผู้ส่ง/ผู้ผลิต/ผู้ร่วมผลิต/ผู้แสดง เป็นขั้นตอนระดับกลางของการมีส่วนร่วมที่จำเป็นต้องสร้าง เงื่อนไขเพิ่มเติม และ 3) การมีส่วนร่วมในระดับบริหารงาน (Policy Maker) คือ การเป็นผู้วางแผนกำหนดนโยบายเกี่ยวกับรายการ โทรทัศน์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดของการมีส่วนร่วม ลักษณะเด่นของขั้นตอนระดับนี้คือ การเป็นผู้วางแผนกำหนดนโยบายเกี่ยวกับ รายการ โดยในการศึกษาครั้งนี้จะวิเคราะห์การสื่อสารแบบมีส่วนร่วมของคนหูหนวกใน 4 ขั้นตอนของกระบวนการผลิตรายการคน หูหนวกสู้โควิด Live

ระเบียบวิธีวิจัย

งานวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเก็บข้อมูลจาก 2 ส่วน ดังนี้

1. การวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายการ โดยใช้วิธีการจัดสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ ผลิตรายการคนหูหนวกรู้สู้โควิด Live ทั้ง 3 ฝ่าย จำนวนทั้งสิ้น 12 คน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยใช้วิธีการจัดสนทนากลุ่ม เพื่อเก็บข้อมูลจากโปรดิวเซอร์ ครีเอทีฟ พิธีกรคนหูดี พิธีกรคน หูหนวก ล่ามภาษามือ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายการ จำนวนทั้งสิ้น 10 คน

1.2 ผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อเก็บข้อมูลจากผู้อำนวยการหรือผู้แทนจากสำนักสนับสนุนสุข ภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวน 1 คน

1.3 สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อเก็บข้อมูลจากนายกสมาคมคนหูหนวกแห่ง ประเทศไทยหรือผู้แทนคณะกรรมการ จำนวน 1 คน

2. การวิเคราะห์เนื้อหารายการ โดยวิเคราะห์คลิปรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ที่เผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจคน หูหนวกรู้สู้โควิด จำนวนทั้งสิ้น 24 ตอน รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ผลการวิจัย

รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ถือเป็นนวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวก ในรูปแบบรายการสดผ่านการสตรีมมิง ในเฟซบุ๊กและยูทูบด้วยภาษามือเต็มจอ โดยมีพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามือ ดำเนินรายการร่วมกัน ผู้ชมทั้งคนหูดี และคนหูหนวกสามารถรับชมรายการไปพร้อมกันโดยไม่ต้องมีบริการเสริม เป็นการทำงานของสื่อแบบ Born Accessible ซึ่งเป็นการ สร้างความเท่าเทียมให้คนหูหนวกในการรับสื่อและการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยสามารถสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้

1. กระบวนการผลิตรายการในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

1.1. ชั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ รายการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักสนับสนุนสุขภาวะประขากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และดำเนินการผลิตโดยคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนพิการ โดยเฉพาะคนหูหนวกที่ประสบปัญหากับความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และ การเข้าถึงข่าวสารข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับเรื่องของโรคโควิด-19 และข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ จึงผลักดันการทำสื่อเพื่อการส่งเสริมสุข ภาพให้ครอบคลุมกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

ผู้ผลิตรายการมีการเตรียมความพร้อม โดยได้กำหนดวัตถุประสงค์ รูปแบบ กลุ่มเป้าหมาย และทิศทางของเนื้อหาที่ต้องการ นำเสนอ วันและเวลาในการออกอากาศ โดยสำรวจข้อมูลจากเครือช่ายคนหูหนวกของทีมผู้ผลิตรายการ รวมทั้งความคิดเห็นจากล่าม ภาษามือ และตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศ เพื่อร่วมกำหนดรูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนำเสนอของรายการร่วมกัน เพื่อ จะได้สร้างสรรค์รายการออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการและธรรมชาติการรับสื่อของคนหูหนวกมากที่สุด และเป็นรายการที่ต้องการ ส่งเสริมให้คนหูหนวกมีช่องทางการในการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพ ที่คนหูหนวกสามารถเข้ามามีส่วนร่วม โดยการเลือกประเด็นใน การนำเสนอในแต่ละสัปดาห์ การเตรียมบท การสรรหาบุคคลที่จะมาดำเนินรายการซึ่งมีทั้งพิธีกรที่เป็นคนหูดีและพิธีกรคนหูหนวก แขกรับเชิญในแต่ละตอนที่จะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับเนื้อหาของรายการในแต่ละตอน รวมไปถึงการเตรียมโปรแกรม ที่จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินรายการสมดุลมากขึ้น เนื่องจากเป็นรายการสดที่ออกอากาศในช่องทางออนไลน์ จึงต้องมีความพร้อม เชิง เทคนิคควบคู่กันไปด้วยนั่นเอง

การสรรหาทีมงานจำเป็นต้องเลือกทีมงานที่มีประสบการณ์การทำงานด้านสื่อ และที่สำคัญคือ ต้องมีประสบการณ์การผลิต รายการสำหรับคนพิการมาก่อน ซึ่งหัวหน้าโครงการนี้มีประสบการณ์การผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกมากว่า 10 ปี จึงทำให้สามารถ เข้าใจธรรมชาติการรับสื่อเป็นอย่างดี ถือเป็นข้อได้เปรียบในการผลิตรายการ ส่วนการเลือกพิธีกรและล่ามภาษามือ ก็จำเป็นต้องมีการ เลือกจากบุคคลที่มีประสบการณ์สูงและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อจะสามารถเป็นกระบอกเสียงและดึงดูดให้คนหูหนวกรับชมรายการ และตอบสนองต่อจุดประสงค์ของรายการที่มุ่งจะให้ความรู้และประโยชน์ในเรื่องของโรคโควิด-19 อย่างครบถ้วน ล่ามภาษามือและ พิธีกรจึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับรายการเพราะพวกเขาคือ คนที่จะทำการสื่อสารกับคนหูหนวกโดยตรง และในขั้นตอนการ เขียนบทรายการนั้นมีรายละเอียดที่ต้องดูแลและขั้นตอนการเขียนที่มากกว่ารายการทั่วไป เนื่องจากต้องใช้ภาษาทางการแพทย์ และ เป็นคำศัพท์ใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกันระหว่าง พิธีกกรคนหูหนวกและล่ามภาษามือ และต้องสอดคล้องกับภาษามือ เพื่อให้ผู้ ร่วมรายการและผู้ชมรายการที่เป็นคนหูหนวกเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อสารและรับประโยชน์จากเนื้อหาของรายการได้อย่างครบถ้วน โดย ประเด็นการนำเสนอในรายการในแต่ละครั้งนั้นจะมีความยากในเรื่องของการสำรวจความต้องการจากคนหูหนวก ที่มักได้คำตอบค่อน ข้างแคบและซ้ำกับสิ่งที่ทำมาแล้ว ดังนั้น การเลือกสรรหัวข้อในแต่ละสัปดาห์จึงต้องมีการสำรวจเพิ่มเติมจากบุคคลแวดล้อมคนหูหนวก ว่ามีความสนใจ หรือต้องการความรู้ในเรื่องใด

1.2 ขั้นเตรียมการผลิตรายการ ทีมงานทุกคนต้องเตรียมงานทุกอย่างให้พร้อมภายในห้องจัดรายการและห้องควบคุมห้องจัด รายการก่อนการถ่ายทำทุกครั้ง ทีมงานทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตนเองและควบคุมดูแลซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ ซึ่งในส่วนของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการออนไลน์ที่สตรีมมิงสดผ่านเฟซบุ๊กและยูทูบ จากเดิมที่รายการมีการเผย แพรใน 2 เพจหลัก ก็ได้มีเพิ่มช่องทางการเผยแพร่พร้อมกันถึง 5 ช่องทาง ได้แก่ เพจคนหูหนวกรู้ สู้โควิด / เพจ Thai Deaf TV / เพจปีที่ 6 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2566 | 17 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ / เพจ Deaf Show by Ton และยูทูบชาแนล Thai Deaf TV เพื่อกระจายข้อมูลให้ ถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยในส่วนของขั้นเตรียมการผลิตนั้น ทีมผลิตจะมีการชักซ้อมก่อนวันถ่ายทอดสด เพื่อทำความเข้าใจของ ทั้งพิธีกร แขกรับเชิญ และทีมงาน ให้เข้าใจตรงกันในการสื่อสาร เนื่องจากประเด็นในการนำเสนอแต่ละครั้งมีความสดใหม่ และอาจมี ข้อมูลที่ค่อนข้างยาก จึงจำเป็นต้องนัดหมายเพื่อทำความเข้าใจในการสื่อสารข้อมูลออกไปใหถูกต้องและชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ยังมี การเตรียมความพร้อมในเรื่องของเทคโนโลยี สัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินรายการได้อย่างราบรื่นตลอดระยะเวลา ที่กำหนด

1.3 ขั้นการผลิตรายการ ด้วย เป็นรายการออนไลน์ที่สตรีมมิงสดผ่านเฟซบุ๊กและยูทูบ จึงต้องอาศัยสัญญาอินเทอร์เน็ตเพื่อ เผยแพร่ภาพและเสียงของรายการในรูปแบบของการสตรีมมิง โดยทีมผู้ผลิตใช้แอปพลิเคชันไลน์เพื่อทำหน้าที่ในการสั่งการสื่อสารกัน เพื่อบอกคิวของรายการ และประเด็นต่าง ๆ ที่อาจแทรกเข้ามาในรายการของทีมผู้ผลิตเบื้องหลัง ทีมพิธีกร และล่ามภาษามือในระหว่าง ที่ออกอากาศสด และในส่วนของผู้ชมรายการก็สามารถแสดงคอมเมนต์เข้ามาที่รายการได้เลย โดยพิธีกรผู้ดำเนินรายการก็จะส่งคำถาม ไปยังผู้ร่วมรายการที่สามารถตอบคำถามได้โดยทันที ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมกับผู้เข้าร่วมรายการได้เลย ทำให้มีการสื่อสารระหว่างกัน และทีมงานผู้ผลิตเองก็สามารถนำความคิดเห็นของผู้ชมเป็นข้อมูลหนึ่งในการวางแนวทางปรับปรุงเนื้อหาและรูปแบบรายการในขั้น ตอนของการประเมินผลด้วย

1.4 ขั้นหลังการผลิตรายการ ภายหลังการออกอากาศเสร็จสิ้นแล้วทุกครั้ง ทีมงานจะประชุมเพื่อประเมินผลการทำงาน ของแต่ละฝ่าย เพื่อพิจารณาว่าการทำงานที่ผ่านมานั้นมีข้อบกพร่องควรแก้ไขหรือไม่ อันเป็นแนวทางปรับปรุงการทำงานในการผลิต รายการในครั้งต่อไป รวมทั้งการประชุมเรื่องการวางเนื้อหาในสัปดาห์ต่อไป โดยเลือกประเด็นที่ผู้ชมนำเสนอเข้ามาในรายการ โดยรวม แล้วรายการมีผลตอบรับที่ดี มีผู้ชมให้ความสนใจมากขึ้น เป็นรายการที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ก็ มีส่วนที่ต้องพัฒนาทั้งในแง่ของการประชาสัมพันธ์และตัวของรายการเองที่จะนำเสนอเนื้อหาให้เข้าถึงง่ายขึ้น กล่าวโดยสรุป การผลิต รายการนั้นมีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้นหน้างานมากมาย เนื่องจากเป็นรายการสด และความยากในการประสานงานเนื่องจากทีมงาน และผู้ร่วมรายการไม่ได้พบกันก่อน ทำให้เนื้อหาบางช่วงมีความตกหล่น การดำเนินรายการไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ การควบคุมเวลา ยังไม่ดีพอ รวมไปถึงปัญหาเชิงเทคโนโลยีและสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็เป็นอุปสรรคทั้งจากของฝั่งผู้ผลิตรายการเอง และฝั่งผู้ชมทางบ้าน ด้วยที่ไม่สามารถรับสารได้อย่างครบถ้วน

คนหูหนวกสามารถเข้ามามีบทบาทและการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตรายการใน 2 ระดับ คือ 1. การมีส่วน ร่วมในฐานะผู้รับสาร อันหมายถึง ผู้ชมรายการทั้งคนหูหนวกและคนหูดี สามารถฝากคำถามและเข้ามาร่วมในรายการได้ 2. การมีส่วน ร่วมในฐานะผู้ผลิตรายการ โดยตัวแทนคนหูหนวกเข้ามามีบทบาทการเป็นพิธีกร ดำเนินรายการ มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตรายการ ตั้งแต่ขั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ ขั้นเตรียมการผลิตรายการ ขั้นผลิตรายการ และขั้นหลังผลิตรายการ

2. รูปแบบและเนื้อหาของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

2.1 ด้านรูปแบบการนำเสนอ พบว่า รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการสัมภาษณ์ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยว การดำเนินชีวิตในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยวางบทบาทพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามืออย่าง สมดุล เป็นรายการที่พิธีกรหูหนวกใช้ภาษามือเต็มจอระหว่างการพูดคุยกับพิธีกรคนหูดีและแขกรับเชิญในรายการ โดยมีล่ามภาษามือ ช่วยสื่อสาร 2 ทาง กล่าวคือ 1. การแปลภาษาพูดเป็นภาษามือให้กับคนหูหนวก 2. การแปลภาษามือเป็นเสียงบรรยายให้กับคนหูดี โดยทั้งพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามือ มีบทบาทในการนำเสนอรายการอย่างเท่าเทียมกัน ถือเป็นการทำงานของสื่อ แบบ Born Accessible ที่สร้างความเท่าเทียมในการรับสื่อตั้งแต่ขั้นต้นของการผลิต

นอกจากนี้รายการยังมีการใช้ภาพ วิดีโอ ประกอบในรายการเพื่อสร้างความเข้าใจ โดยในแต่ละตอนจะมีพิธีกรที่ทำหน้าที่ ดำเนินรายการ 2 คน และบางตอนจะมี 3 คน และหากตอนใดที่มีแขกรับเชิญในรายการจำนวนมาก ทางรายการจะมีการเพิ่มจำนวน ล่ามภาษามืออีก 1 คน โดยความยาวของรายการตอนละ 1 ชั่วโมง แบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก คือช่วงที่ 1 การให้ความรู้ด้านสุขภาพโดยสัมภาษณ์วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ช่วงที่ 2 ช่วงเล่นเกมตอบคำถามเพื่อลุ้นรับของที่ระลึกจากทางรายการ โดยผู้ชมรายการทั้งคนหู หนวก และคนหูดี สามารถฝากคำถามในรายการได้ 4 รูปแบบ คือ 1. ข้อความ 2. คลิปวิดีโอ 3. ถามสดร่วมจอขณะถ่ายทอดสด และ 4. คอมเมนต์ขณะถ่ายทอดสด โดยตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย อธิบายเพิ่มเติมว่า การวางรูปแบบการนำเสนอของรายการนี้สามารถ ทำให้คนหูหนวกสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเอื้อประโยชน์ให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมกับรายการได้เป็นอย่างดี สามารถนำความรู้ที่ ได้จากรายการไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างเท่าเทียม

2.2 ด้านเนื้อหา พบว่า เนื้อหารายการส่วนใหญ่เน้นเรื่องของการให้ความรู้และแนวทางการดำเนินชีวิตในช่วงที่มีการระบาด ของไวรัสโควิด-19 มีเนื้อหาหลากหลายมิติที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของคนหูหนวกที่อาจได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่น เรื่อง สายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 เรื่องการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เรื่องการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทาง เลือก เรื่องหลักธรรมนำชีวิต เรื่องการฟื้นฟูร่างกายหลังหายป่วยโควิด เรื่องการเสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพจิตในวิกฤตโควิด-19 เรื่องการ ผลิตสื่อของคนหูหนวกเพื่อรู้เท่าทันโควิด-19 รวมทั้งในประเด็นของการที่คนหูหนวกต้องรู้เท่าทันมิจฉาชีพและกลโกงออนไลน์ และใน เรื่องของการสร้างรายได้ให้คนหูหนวกรู้ทันอาชีพใหมในยุคโควิด-19 ที่จะสามารถปรับตัวได้ เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าเนื้อหาเหล่านี้ถูก สร้างมาเพื่อเป็นเสมือนทางออก หรือส่งเสริมแนวการการดำเนินชีวิตให้คนหูหนวกสามารถรับมือด้านต่าง ๆ ได้ โดยอีกวิธีการหนึ่งใน การสำรวจความต้องการความรู้ของคนหูหนวก คือการทำแบบสอบถาม และการนำข้อมูลจาก สสส. มาเป็นแนวทางในการกำหนด หัวข้อในรายการของแต่ละสัปดาห์ โดยเน้นจาก 2 ประเด็นคือสิ่งที่คนหูหนวกจำเป็นต้องรู้ และสิ่งที่คนหูหนวกต้องการที่จะรู้จากการ ถามคำถาม

ส่วนในด้านแขกรับเชิญหรือวิทยากรที่มาร่วมรายการส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นบุคลากรทางสาธารณสุข เนื้อหา รายการจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เป็นเนื้อหาที่มีคำศัพท์ทางการแพทย์ หรือเชิงวิซาการ รวมทั้งเป็นคำศัพท์ใหม่ ๆ ทางรายการ จึง จำเป็นต้องย่อยประเด็นเหล่านั้น ทำให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับคนหูหนวกเหมือนกัน มีคำ ศัพท์ใหม่ ๆ ที่อาจยังไม่มีภาษามือ หรือใช้คำศัพท์ในการสื่อสารค่อนข้างยากต่อความเข้าใจของคนหูหนวก จึงจำเป็นต้องมีการหาข้อมูล ประกอบเพื่อทำความเข้าใจก่อนการผลิตรายการทั้งในส่วนของพิธีกร

ล่ามภาษามือ แขกรับเชิญ และทีมงานของรายการร่วมกันให้ชัดเจน โดยทางรายการจะเปิดโอกาสให้ผู้ชมรายการสามารถ ร่วมกำหนดประเด็นหรือหัวข้อในรายการได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกกับรายการ ได้ด้วย ซึ่งทางผู้ผลิตรายการต้องการเปิดโอกาสให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตรายการ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญในกระบวนการ ผลิตรายการนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตมองว่า สิ่งที่ถือเป็นนวัตกรรมการผลิตรายการครั้งนี้ เป็นเรื่องของการใช้เทคโนโลยี การสื่อสารสำหรับการผลิตรายการในรูปแบบรายการสดผ่านการสตรีมมิงในเฟซบุ๊กและยูทูบ ที่สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมรายการ ทั้ง คนหูดี และคนหูหนวก รวมทั้งในส่วนการผลิตรายการก็มีทั้งคนหูดีและคนหูหนวกทำงานร่วมกัน โดยมีล่ามภาษามือเต็มจอตลอด ทั้งรายการ และมีการใช้กราฟิกต่าง 1 ที่สอดรับกับธรรมชาติการรับสื่อของคนหูหนวก

จะเห็นได้ว่า รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการที่ผลิตขึ้นเพื่อให้คนพิการโดยเฉพาะคนหูหนวกสามารถเข้าถึงและ รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่สามารถเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยในมุมมองของทีม ผู้ผลิต สิ่งที่ต้องพัฒนาต่อในอันดับแรก ๆ นั่นคือ การเขียนบทรายการคนหูหนวกทุกอย่างต้องมากขึ้น รวมไปถึงรูปแบบการใช้คำ หรือ คำศัพท์ ไม่ควรใช้คำยาก อย่างไรก็ตามทีมงานผู้ผลิตก็มองว่า คนหูหนวกมีความสามารถในการที่จะเป็นพิธีกรดำเนินรายการได้ เพียง แต่ต้องเตรียมบทรายการที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการผลักดันให้คนในสังคมเห็นถึงศักยภาพด้านการผลิตสื่อของ คนหูหนวกได้อีกด้วย ดังนั้น สำหรับแนวทางการพัฒนารายการสำหรับคนหูหนวก ควรจะเน้นในเรื่องของการเตรียมข้อมูลและการ เขียนบทให้คนหูหนวกสามารถเข้าใจเรื่องที่ต้องการนำเสนอได้อย่างชัดจนยิ่งขึ้น อีกทั้งในเรื่องของการประชาสัมพันธ์และการร่วมกับ หน่วยงานอื่น ๆ เพื่อช่วยเผยแพร่รายการ หรือเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์แก่คนหูหนวกก็เป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาต่อไป

อภิปรายผล

1. เข้าถึง เข้าใจ: การผลิตสื่อเพื่อคนหูหนวก จากผลการศึกษากระบวนการผลิตรายการในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live นั้น เกิดจากการผลักดันและร่วมมือกันของภาคสังคม นำโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) หนึ่งในหน่วยงาน สำคัญของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และสมาคมคนหูหนวก แห่งประเทศไทย ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานมีเป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างการรับรู้และนำไปใช้ประโยชน์ของคนหูหนวก จึงทำให้ สามารถผลิตรายการนี้เกิดขึ้นมาได้ หากแต่การผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกโดยเฉพาะในสื่อหลักของภาคธุรกิจ อาจยังมีจำนวนไม่มากเท่า ที่ควร เนื่องจากมีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการผลิตรายการหลายประการ ดังที่ พัชรินทร์ ผากา (2559) ที่ได้ศึกษาเรื่อง "นวัตกรรม รูป แบบรายการโทรทัศน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก" โดยศึกษารายการใจเท่ากัน ซึ่งผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดในการผลัก ดันให้เกิดรายการโทรทัศน์สำหรับคนหูหนวก ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้ส่งสาร และปัจจัยด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากคนหูหนวกในประเทศไทยมี จำนวนน้อย ไม่คุ้มค่าการลงทุน จึงไม่ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตสื่อ แต่รายการใจเท่ากันได้รับการสนับสนุนจากองค์กรผู้ผลิตสื่อเพื่อสนอง ต่อประโยชน์สาธารณะ ไม่มุ่งแสวงหากำไร จึงสามารถผลิตรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีได้

การเข้าถึงสื่อของคนหูหนวก ยังเป็นสิ่งที่ต้องถูกผลักดันจากหลายภาคส่วนของสังคม ด้วยข้อจำกัดทางด้านร่างกายของคนหู หนวกในการรับสื่อ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ผลิตสื่อ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการผลิตสื่อที่สอดรับกับ ธรรมชาติของรับสื่อและการใช้งานของคนหูหนวกมากที่สุด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ สื่อต้องเป็นเสมือนผู้นำทางสังคม ต้องทำหน้าที่กระจายความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้คนทั่วไป และโดยเฉพาะคนพิการ สามารถ รับรู้ข้อมูลข่าวสารและนำมาปฏิบัติใช้กับตนเองและคนรอบข้างได้อย่างทันท่วงทีและถูกต้อง การส่งเสริมให้คนพิการสามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้นั้น จึงต้องมีการขับเคลื่อนในหลายภาคส่วน ทั้งด้านผู้ผลิต ผู้รับสื่อ และภาคสังคม ดังที่ตรี บุญเจือ (2562) ได้อธิบายแนวคิดที่ ต้องตอบสนองความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านกิจการโทรทัศน์เป็น 3 มิติ คือ 1) มิติของคนพิการในการเป็นผู้เสพสื่อโทรทัศน์ โดยคนพิการต้องการเสพสื่อโทรทัศน์ทุกประเภทและทุกรูปแบบในเวลาที่หลากหลายเช่นเดียวกับคนทั่วไป และคนพิการแต่ละประเภทรับ รู้สื่อโทรทัศน์แตกต่างกัน จึงต้องลดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ต่างกันไปตามประเภทของความพิการ 2 มิติของการเป็นผู้ร่วม ผลิตสื่อที่สื่อสารมวลชนควรรับรู้เกี่ยวกับคนพิการ และ 3 มิติของสังคม โดยการที่สังคมมองว่าคนพิการเป็น "คนอื่น" ไม่ใช่พวกเรา เป็น ปัญหาสำคัญเมื่อคนอื่นกลายเป็นคนชายขอบ

จะเห็นได้ว่า หากมีการส่งเสริมและผลักดันให้มีการผลิตสี่อ รายการโทรทัศน์ หรือรายการออนไลน์สำหรับคนหูหนวก หรือคน พิการอื่น ๆ ในภาคธุรกิจกิจของสื่อเชิงพาณิชย์มากขึ้น รวมทั้งความร่วมมือจากภาคสังคม ก็จะสามารถ ทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตสื่อเพื่อให้คนหูหนวกสามารถเข้าถึงสื่อและใช้ประโยชน์จากสื่อได้อย่างเท่าเทียมกับประชากรกลุ่ม อื่น ๆ โดยทั้งนี้สามารถนำผลการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตรายการ รูปแบบ และเนื้อหาในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ไปเป็น ตัวอย่างในการพัฒนารายการเพื่อคนหูหนวกต่อไปได้

การผลิตสื่อรายการเพื่อคนหูหนวกนั้นต้องมีความเข้าใจพฤติกรรมในการเปีดรับสื่อ และธรรมชาติของการรับสื่อของคนหูหนวก รวมทั้งผู้ผลิตรายการมีการเตรียมความพร้อม โดยสำรวจข้อมูลจากเครือข่ายคนหูหนวกของทีมผู้ผลิตรายการ รวมทั้งความคิดเห็นจากล่าม ภาษามือ และตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศ เพื่อร่วมกำหนดรูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนำเสนอของรายการร่วมกัน เพื่อ จะได้สร้างสรรค์รายการออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการและธรรมชาติการรับสื่อของคนหูหนวกมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ว่า รายการคนหู หนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการที่มุ่งเน้นการให้ความรู้กับคนหูหนวกในรูปแบบของรายการออนไลน์ ที่สอดกับรับพฤติกรรมการรับสื่อ ของคนหูหนวก สอดคล้องกับการศึกษาของศิวนารถ หงษ์ประยูร (2558) ที่ได้อธิบายไว้ว่า คนหูหนวกนิยมสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เพราะ เป็นการสื่อสาร 2 ทาง เพราะคนหูหนวกชอบการมี Feedback หลังจากที่สื่อสารออกไป โดยคนหูหนวกส่วนใหญ่นิยมการแชต MSN และ แชตอื่น ๆ รวมทั้งการสื่อสารผ่านภาพเคลื่อนไหว คนหูหนวกนิยมชมคลิปในยูทูบมาก เพราะเป็นภาพ และคนหูหนวกนิยมสื่อสารผ่าน Social Network เพราะไปตอบสนองความต้องการของคนหูหนวก คือ ต้องการการพูดคุยในชุมชน ใช้ภาษาไม่มาก ใช้คำสั้น ๆ และเป็นความรู้สึกว่าไม่แตกต่างจากคนทั่วไป และยังสอดคล้องกับผลการศึกษาของพรพรรษา พิมพ์กระจ่าง (2560) ที่ได้ศึกษาเรื่อง "การศึกษา พฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บกพร่องทางการได้ยิน" จากผู้บกพร่องทางการได้ยินทั้ง 4 กลุ่มช่วงวัย คือ กลุ่ม 13-18 ปี กลุ่ม 19-25 ปี กลุ่ม 26-49 ปี และ 50 ปีขึ้นไป โดยผลการวิจัยพบว่า ผู้บกพร่องทางการได้ยิน มีการใช้สื่อออนไลน์เป็นประจำ แม้กระทั่งในช่วงเวลา เรียนและช่วงวันหยุด ส่วนความต้องการพื้นฐานของผู้บกพร่องทางการได้ยินที่มีต่อสื่อออนไลน์ พบว่า ยังคงมีความต้องการล่ามภาษามือ เพื่อแปลข้อความที่พบเห็นในสื่อออนไลน์ อันเนื่องมาจากภาษามือคือภาษาแรกของผู้บกพร่องทางการได้ยิน และพบอีกประเด็นที่น่าสนใจ คือต้องการให้มีสติกเกอร์ในรูปแบบภาษามือ เพื่อง่ายต่อการแสดงความรู้สึกและแผนข้อความในการติดต่อสื่อสารอีกด้วย โดยล่ามภาษา มือถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนหูหนวกที่จะใช้ในการเปิดรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ดังเช่นผลการศึกษาของ มณีรัตน์ ศิริปัญจนะ (2557) ที่พบว่า คนหูหนวกที่รับชมรายการโทรทัศน์ที่มีล่ามภาษามือ จะมีประสิทธิผลการรับรู้ที่ดีกว่าคนหูหนวกที่รับชมรายการโทรทัศน์ที่ไม่มี ล่ามภาษามือ ซึ่งคนหูหนวกที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษาแตกต่างกัน จะมีการรับรู้ และเข้าใจข้อมูลข่าวสารจากรายการโทรทัศน์ที่ไม่ แตกต่างกัน ทั้งนี้คนหูหนวกมีการรับรู้และเข้าใจข้อมูลข่าวสารจากรายการโทรทัศน์ประเภทรายการสารคดีมากที่สุด รองลงมาคือ รายการ ข่าว และรายการสนทนา โดยเมื่อรับชมรายการแล้วคนหูหนวกจะเข้าใจในบทสรุปของเนื้อหามากที่สุด

คนหูหนวกนอกจากจะมีปัญหาในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์แล้ว ยังมีอุปสรรคในเรื่องของการสื่อสารด้วย โดยหลายคน จำเป็นต้องนัดล่ามไปพบแพทย์ด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของผู้พิการทางการได้ยินที่มีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร ความบกพร่อง ทางการได้ยินอาจจะมีปัญหาในการใช้ภาษา กล่าวคือ ใช้ภาษาค่อนข้างจำกัด และไม่ถูกหลักไวยากรณ์ รู้คำศัพท์ในวงจำกัด ไม่สามารถนำ ศัพท์ไปใช้ในประโยคที่หลากหลายตามแต่ละสถานการณ์ได้ อาจใช้คำสลับที่กัน หรือการเขียนที่บกพร่อง (เกยูร วงศ์ก้อม, 2548, น. 8) ทำให้การสื่อสารกับบุคคลอื่นมีอุปสรรค ควรต้องมีล่ามภาษามือเดินทางไปด้วยเมื่อมีธุระสำคัญ ดังนั้นในรายการนี้ล่ามภาษามือจึงมีบทบาท และมีความสำคัญมากในการที่จะแปลสารไปถึงคนหูหนวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางรายการพยายามช่วยให้ข้อจำกัดนี้ลดลง ทั้งการ ใช้ภาษามือเต็มจอ การเปิดโอกาสให้คนหูหนวกได้สนทนากับแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ตามวัตถุประสงค์ของรายการที่ พยายามจะให้ความรู้ข่าวสารในเรื่องของโรคโควิด-19 และช่วยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนหูหนวกมีแนวทางในการปรับตัวและใช้ชีวิตในช่วง ภาวะวิกฤติเช่นนี้

2. เข้าไปมีส่วนร่วม: คนหูหนวกกับการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม รายการนี้เปิดโอกาสให้คนหูหนวก เข้ามามีบทบาทและมีส่วน ร่วมในรายการ 2 ระดับ กล่าวคือ 1. การมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร และ 2. การมีส่วนร่วมในฐานะผู้ผลิต โดยทางรายการมุ่งเน้นให้ผู้ชม รายการคนหูหนวกสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในรายการด้วยการฝากคำถามในรายการได้ 4 รูปแบบ คือ 1. ข้อความ 2. คลิปวิดีโอ 3. ถาม สดร่วมจอขณะถ่ายทอดสด และ 4. คอมเมนต์ขณะถ่ายทอดสด และในส่วนของฐานะผู้ผลิตคนหูหนวกเข้ามามีบทบาทในการเป็นพิธีกรดํ าเนินรายการ มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตรายการตั้งแต่ขั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ ขั้นเตรียมการผลิตรายการ ขั้นผลิตรายการ และขั้นหลังผลิตรายการ การผลักดันให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมในรายการนั้น ทำให้คนหูหนวกสามารถแสดงศักยภาพของตนเองได้ ผ่านบทบาทของพิธีกรที่จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับสังคมคนหูหนวกอีกด้วย รวมทั้งการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร ก็ จะเป็นผลดีต่อการสร้างสรรค์เนื้อหา รูปแบบการนำเสนอของรายการตอบโจทย์ความต้องการของคนหูหนวก เป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ร่วมกันที่เคารพทุกความคิดเห็น และผู้ผลิตสามารถนำความคิดเห็นต่าง ๆ มาปรับปรุงพัฒนารายการต่อไปให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้อง กับแนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ Shirley A. White, et al (1994 อ้างถึงในชลลดา กิจรื่นภิรมย์สุข, 2548, น. 17) ที่ได้สรุปแนวคิด การสื่อสารแบบมีส่วนร่วมไว้ว่า หัวใจสำคัญของกระบวนการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม (Participatory Communication Process) คือ กระบวนการร่วมกันคิด ร่วมรับฟัง และเคารในความคิดของผู้อื่น ตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกในชุมชน ร่วมวิเคราะห์ประเด็น ปัญหาทางสังคม แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน ตลอดจนกระบวนการร่วมกันค้นหาแนวทางและตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งทางทีมงาน ผู้ผลิตรายการก็พยายามกระตุ้นให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมกับรายการด้วยการซักถาม ติชม แสดงความคิดเห็น และเปิดโอกาสให้เสนอ แนะประเด็นที่น่าสนใจเพื่อนำมาสู่การจัดทำเนื้อหาของรายการในประเด็นต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับที่สุดถนอม รอดสว่าง (2561)ได้อธิบายไว้ว่า รายการภาษามือเต็มจอควรจะสนับสนุนความสามารถของคนพิการทางการได้ยินให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ด้วยการส่งเสริมให้คนหูหนวกได้มีส่วนร่วมในการผลิตรายการและเปิดโอกาสให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอประเด็นหรือกำหนดทิศทาง ของเนื้อหาของบทรายการที่เหมาะสมกับคนหูหนวก เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจความแตกต่างและยอมรับในศักยภาพของคนหูหนวก ส่ง ผลให้คนทั่วไปและคนหูหนวกได้เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น นอกจากนี้ผู้เขียนบทควรทำการศึกษารายการโทรทัศน์ภาษามือเต็มจอของ ต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จเพื่อเป็นตัวอย่างในการพัฒนา รายการโทรทัศน์ภาษามือเต็มจอของไทย และพัฒนารูปแบบรายการให้ สร้างสรรค์ ตอบโจทย์ความต้องการของคนพิการ รวมทั้งบทต้องไม่แยกคนพิการออกจากการรับชมรายการของคนทั่วไปเพื่อให้ทุกคน สามารถดูรายการโทรทัศน์เพื่อเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้

อย่างไรก็ดี การสื่อสารแบบมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในกระบวนการผลิตรายการนั้นจะมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร และมีส่วน ร่วมในฐานะผู้ผลิตเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในฐานะผู้วางแผนและกำหนดนโยบายได้ หรือในระดับบริหารได้ ซึ่งอาจเป็น เพราะปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องทั้งด้านการเข้าถึงสื่อ ด้านเงินทุน และด้านทักษะการผลิตสื่อ เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของพัชรินทร์ ผากา (2559) ที่ผลการศึกษาพบเช่นกันว่าในกระบวนการผลิตรายการโทรทัศน์ใจเท่ากันเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคนหูดี และคนหู หนวก ซึ่งสามารถแบ่งระดับการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม ได้แก่ การมีส่วนร่วมในฐานะผู้ชม และการมีส่วนร่วมในฐานะผู้ส่งสาร โดยพิธีกร ซึ่งเป็นทีมงานคนหูหนวกได้มีส่วนร่วมในระดับนี้มากที่สุด แต่ยังไม่พบการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในระดับบริหาร เพราะถึงแม้ทีมงาน คนหูหนวกจะไม่มีความรู้ในด้านสื่อโทรทัศน์มาก่น แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติจริงก็สามารถเข้าใจกระบวนการผลิตรายการ โทรทัศน์ รวมทั้งมีส่วนช่วยเหลือในการทำงานได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามพบว่า คนหูหนวกในประเทศไทยที่มีความรู้ มีศักยภาพในการ ทำงาน และสนใจศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ยังมีจำนวนน้อย เพราะฉะนั้นหากในอนาคตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคนหูหนวก ทั้งสมาคมคน หูหนวกแห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หรือหน่วย งานอื่น ๆ สามารถเข้ามาผลักดันและสนับสนุนงบประมาณในการผลิตสื่อเพื่อคนหูหนวกและคนพิการอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น หรือการร่วมกัน ผลักดันให้คนหูหนวกเข้าไปมีส่วนร่วมในระดับบริหารได้ ก็จะส่งผลต่อรูปแบบและเนื้อหารายการที่จะผลิตขึ้น ที่จะสามารถสะท้อนตัวตน ของหูหนวกและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนคนหูหนวก

องค์ความรู้ใหม่จากการวิจัย

ผู้วิจัยพบโมเดลของกระบวนการผลิตรายการสดในรูปแบบออนไลน์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับประเด็นสุขภาพ สำหรับคนหูหนวก รวมทั้งรูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนำเสนอ โดยองค์กรสื่อ หน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับคนหูหนวกหรือคนพิการสามารถนำองค์ความ รู้นี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนารายการ หรือเป็นช่องทางในการส่งเสริมให้คนพิการเข้าถึงสื่อ สามารถแสดงศักยภาพด้านการผลิตสื่อ และใช้ประโยชน์จากสื่อได้อย่างเท่าเทียม

ข้อเสนอแนะ

1. สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย และเครือข่ายทั่วประเทศ สามารถนำผลการวิจัยครั้งนี้ไปศึกษากระบวนการผลิต รายการเพื่อคนหูหนวก เพื่อผลักดันให้เกิดการส่งเสริมให้คนหูหนวกเข้ามามีบทบาทด้านการผลิตสื่อเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการ ผลิตรายการเพื่อให้คนหูหนวกสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้และนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้

2. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส. ในฐานะผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการ สามารถนำข้อค้นพบเกี่ยวกับ รูปแบบและเนื้อหา รวมทั้งกระบวนการผลิตรายการเพื่อให้ความรู้กับคนหูหนวกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์วิกฤติสุขภาพอื่น ๆ ต่อไปได้

3. องค์กรสื่อต่าง ๆ สามารถนำองค์ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบ เนื้อหา และกระบวนการสร้างสรรค์รายการที่สร้างการมีส่วน ร่วมของคนหูหนวก และไปประยุกต์ใช้และพัฒนาการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกต่อไปได้ รวมทั้งภาคส่วน ที่มีส่วนผลักดันเกี่ยวกับ สื่อเพื่อคนหูหนวก

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา แก้วเทพ และคณะ. (2543). สื่อเพื่อชุมชน : การประมวลองค์ความรู้.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

เกยูร วงศ์ก้อม. (2548). ความรู้ทั่ไปเกี่ยวกับการศึกษาพิเศษ. เพทายการพิมพ์.

คชรักษ์ แก้วสุราช. (2563, 15 มิถุนายน). สื่อคือแสงของคนหูหนวกในช่วงวิกฤต ?. https://thisable.me/content/2020/ 06/629

คมชัดลึก ออนไลน์. (2565, 21 ตุลาคม). Big Sign ภาษามือใหญ่เต็มจอ นวัตกรรมความสุขเพื่อคนหูหนวกจาก VIPA. https://www. komchadluek.net/pr/533934

ชลลดา กิจรื่นภิรมย์สุข. (2548). การศึกษาสถานะขององค์ความรู้ ด้านการสื่อสารและการมีส่วนร่วมในวิทยานิพนธ์สาขานิเทศศาสตร์ พัฒนาการของไทย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตรี บุญเจือ. (2562). คนพิการกับการเข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากกิจการโทรทัศน์. วารสารวิชาการ กสทช. ประจำปี 2562, 3(3), 121-146.

พรพรรษา พิมพ์กระจ่าง. (2560). การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บกพร่องทางการได้ยิน (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

พัชรินทร์ ผากา. (2559). นวัตกรรมรูปแบบรายการโทรทัศน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

มณีรัตน์ ศิริปัญจนะ. (2557). ประสิทธิผลด้านการรับรู้และความเข้าใจข้อมูลข่าวสารของคนหูหนวกจากรายการโทรทัศน์ผ่าน ล่ามภ าษามือ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตม่ได้ตีพิมพ์. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศิวนารถ หงษ์ประยูร. (2558). การพัฒนารายการข่าวทางสื่ออินเทอร์เนตทีวี (IPTV) สำหรับคนหูหนวก. วารสารสุทธิปริทัศน์, 29(90), 291-312.

สุดถนอม รอดสว่าง. (2561). แนวทางการเขียนบทรายการโทรทัศน์ภาษามือเต็มจอสำหรับคนพิการทางการได้ยิน. วารสารนิเทศศาสตร์ ธุรกิจบัณฑิตย์, 12(2), 325-355.

เสรี เรือนหล้า. (2543). รูปแบบและกลวิธีการดำเนินเรื่องในการจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ตามความต้องการของนักเรียน นักศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยแมโจ้

อลิสา ชินคงอำนาจ. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกรับชมรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง [การค้นคว้า อิสระปริญญามหาบัณฑิต. มหวิทยาลัยธรรมศาสตร์. http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2017/ TU 2017 5902031334 7344 6087.pdf

voice online. (2554, 1 ตุลาคม). หัตถภาษานานาข่าว รายการข่าวของคนหูหนวก. https://www.voicetv.co.th/read/ 19584

JSL Global Media. (2564, 4 พฤษภาคม),. รายการ D-มีดี EP8 นายกสมาคมคนตาบอด และคนหูหนวกทำสื่อ กับเรื่องราว .. คนพิการเสพสื่ออะไร มีภาษามือ]. https://www.youtube.com/watch?v=ciQ9Eqnmc30

.paragraph{ text-indent: 30px; }

พันธกานต์ ทานนท์

Received:08/23/2022 Revised:10/25/2022 Accepted:10/27/2022

นวัตกรรมการผลิตรายการออนไลน์เพื่อให้ความรู้โควิด-19 สําหรับคนหูหนวก

กรณีศึกษา รายการคนหูหนวกรู้สู้โควิด Live

บทคัดย่อ

งานวิจัยชิ้นนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการผลิตรายการ รูปแบบ และเนื้อหาของรายการ คนหูหนวกรู้สู้โควิด Live โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาข้อมูล 2 ส่วน คือ 1. การวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายการ โดยการจัดสนทนากลุ่ม และ การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตรายการ จํานวนทั้งสิ้น 12 คน และ 2. การวิเคราะห์เนื้อหารายการ โดยศึกษา จากการวิเคราะห์คลิปรายการ จํานวนทั้งสิ้น 24 ตอน รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ผลการวิจัยพบว่า รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ถือเป็นนวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวก ในรูปแบบรายการสด ผ่านการสตรีมมิ่งในเฟซบุ๊กและยูทูบด้วยภาษามือเต็มจอ โดยมีพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามือ ดําเนินรายการร่วมกัน ผู้ชมทั้งคนดีและคนหูหนวกสามารถรับชมรายการไปพร้อมกันโดยไม่ต้องมีบริการเสริม เป็นการทํางานของสื่อแบบ Born Accessible ที่สร้างความเท่าเทียมให้คนหูหนวกในการรับสื่อและการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ผ่าน 4 ขั้นตอนในการผลิตรายการ ซึ่งเกิดจากการวางแผน เตรียมงานจากผู้ผลิตรายการที่มีประสบการณ์การทํางานกับคนหูหนวก โดยได้สํารวจข้อมูลเพื่อศึกษารูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนํา เสนอ จากคนหูหนวก ล่ามภาษามือ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างสรรค์รายการให้สอดรับกับความต้องการและธรรมชาติการรับสื่อของคน หูหนวกมากที่สุด คนหูหนวกเข้ามามีบทบาทและการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมใน 2 ระดับ คือ 1. การมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร 2. การ มีส่วนร่วมในฐานะผู้ผลิตรายการ ส่วนรูปแบบของรายการนั้นจะวางความสําคัญในการนําเสนอของทั้งพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก อย่างเท่าเทียม มีการใช้ภาพ วิดีโอ ประกอบในรายการเพื่อสร้างความเข้าใจ รายการแบ่งช่วงรายการออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการให้ ความรู้ด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญ กับช่วงเล่นเกมตอบคําถาม โดยผู้ชมสามารถฝากคําถามในรายการได้ 4 รูปแบบ คือ 1. ข้อความ 2. คลิปวิดีโอ 3. ถามสดร่วมจอขณะถ่ายทอดสด และ 4. คอมเมนูต์ขณะถ่ายทอดสด ส่วนทางด้านเนื้อหา พบว่า รายการจะคัดเลือก ประเด็นในการนำเสนอเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในช่วงที่มีวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 รวมไปถึงประเด็นสุขภาพอื่น ๆ ใกล้ตัว แล้วนำ มาย่อยประเด็นให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งผู้ชมสามารถร่วมกำหนดประเด็นหรือหัวข้อ ที่สนใจมาทางรายการได้ สิ่งเหล่านี้เอื้อต่อ การใช้ประโยชน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกได้อย่างเต็มที่

คำสำคัญ: คนหูหนวก นวัตกรรมการผลิตรายการออนไลน์ คนหูหนวกรู้สู้โควิด Live โควิด-19

บทนำ

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สื่อเป็นที่พึ่งสำคัญในการให้ข้อมูลสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งการนำเสนอข่าวสารการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน การแพร่เชื้อ วิธีการป้องกันตนเอง หรือมาตรการต่าง ๆ จากรัฐบาล ส่งผล ต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้คนในสังคมต้องคอยติดตามข่าวสาร เพื่ออัปเดตและเป็นความรู้ในการป้องกัน ตนเองและคนในครอบครัว แต่ท่ามกลางข้อมูลในภาวะวิกฤติที่ถูกสื่อสารออกมานั้น กลุ่มคนหูหนวกกลับต้องเผชิญกับปัญหาใน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ไม่ชัดเจน ผลกระทบจากการเว้นระยะห่างทางสังคม และการเข้าไม่ถึงการเยียวยาต่าง ๆ จากภาครัฐดัง ที่สุชาดา จิตรสุภาพ (อ้างถึงในคชรักษ์ แก้วสุราช, 2563) ล่ามภาษามือที่มีประสบการณ์ทำงานใกล้ชิดกับคนหูหนวกมานานกว่า 20 ปี อธิบายว่า "ช่วงแรกที่เกิดโควิด-19 เป็นปัญหากับคนหูหนวกมาก เพราะข่าวสารมีความหลากหลาย และยังไม่ได้รับการก ลั่นกรอง คนหูหนวกคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เขาวิตกจริตมากเพราะไม่แน่ใจว่าสาเหตุของโรคมาจากไหน ค้างคาวหรืองู ตกลงแล้วมา จากไหนกันแน่ ซึ่งเราเองก็ได้แต่ตอบว่าไม่มั่นใจ เพราะเวลานั้นยังไม่มีใครทราบ แต่คนหูหนวกยิ่งเครียดยิ่งกังวลมากกว่า เพราะ เขาไม่มีข้อมูลเลยว่า ติดกันแบบไหน คนสู่คนหรือไม่ ป้องกันอะไรได้บ้าง ช่วงที่ทุกคนต้องการข้อมูลข่าวสาร ก็เป็นช่วงที่คนหูหนวก ต้องการเหมือนกัน แต่กลับไม่มีข้อมูลที่เข้าถึงได้"

การนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และการส่งเสริมการเข้าถึงชุดความรู้ต่อกลุ่ม คนหู หนวกก็เช่นกัน ซึ่งทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สส.) ได้เล็งเห็นความสำคัญในส่วนนี้จึงได้ร่วมมือกับ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผลิตรายการ "คนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live" เป็นรายการออนไลน์ที่ออกอากาศสด ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจคนหูหนวกรู้สู้โควิด และยูทูU Thai Deaf TV ทุกวันศุกร์ เวลา 19.30-20.30 น. ออกอากาศครั้งแรกเมื่อ วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ 2564 มีจำนวนรายการทั้งสิ้น 24 ตอน รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ถือเป็นรายการออนไลน์ที่ออก อากาศสดเต็มรูปแบบที่มีล่ามภาษามือเต็มจอ มีเนื้อหารายการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้กับคนหูหนวกโดยเฉพาะ เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำเสนอ โดยใน รายการจะมีทั้งพิธีกรคนหูหนวก พิธีกรคนหูดี และล่ามภาษามือ พร้อมทั้งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ จากหน่วยงานทางด้าน สาธารณสุข ที่จะหมุนเวียนมาให้ความรู้ในแต่ละตอนอีกด้วย

ด้วยความน่าสนใจของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ที่ถือว่า เป็นนวัตกรรมการผลิตรายการออนไลน์ที่ออกอากาศสด เต็มรูปแบบครั้งแรกเพื่อคนหูหนวก เป็นรายการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดใหม่ของไวรัสโควิด-19 และยังเป็น รายการที่สร้างการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก รวมทั้งการนำเสนอทั้งรูปแบบและเนื้อหารายการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมที่เป็นกลุ่ม เฉพาะอย่างคนหูหนวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เพื่อนำไปใช้ดูแลตนเองและครอบครัวในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี จึงนำมาสู่ ความสนใจของผู้วิจัยที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตรายการว่าจะมีกระบวนสร้างสรรค์รายการอย่างไรบ้าง การวางแผน ตั้งแต่การคิดประเด็น เนื้อหา การคัดเลือกวิทยากร การมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในรายการ รวมทั้งประเด็นปัญหาและอุปสรรคที่ พบในการผลิตรายการ และศึกษารูปแบบและเนื้อหาของรายการ เพื่อสามารถนำความรู้ที่ได้จากการวิจัยไปพัฒนารายการสำหรับ การผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกต่อไปในอนาคต

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อศึกษากระบวนการผลิตรายการในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

2. เพื่อศึกษารูปแบบและเนื้อหาของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

การทบทวนวรรณกรรม

นวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวก

ผู้วิจัยพบข้อมูลรายการที่มีนวัตกรรมในการผลิตรายการทั้งรายการบันทึกเทปที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ และรายการออนไลน์ ที่เผยแพร่ทางยูทูบและเว็บไซต์ ดังนี้ รายการหัตถภาษานานาข่าว ถือเป็นรายการข่าวภาษามือแห่งแรกของประเทศไทยที่ใช้ผู้ประกาศเป็นคนหูหนวกและใช้ ภาษามือในการนำเสนอข่าว โดยทดลองออกอากาศทางยูทูบและเว็บไซต์ (voice on line, 2554) และการเกิดขึ้นของรายการ Deaf Channel ซึ่งสำนักงาน กสทช. จัดทำเป็นรายการต้นแบบ ดำเนินการผลิตโดยสถานีโทรทัศน์ภาษามือเพื่อคนหูหนวก Thai Deaf TV ของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และร่วมสนับสนุนช่องทางการออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ โดยสมาคมคนหูหนวกแห่ง ประเทศไทยมีส่วนร่วมในการกำหนดประเด็นเนื้อหา และมีพิธีกรหูหนวกเป็นรายการแรก ถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่นำเสนอด้วยภาษา มือเต็มจอรายการแรกบนจอโทรทัศน์ประเทศไทย และยังมีคำบรรยายแทนเสียง และเสียงพากย์ เพื่อให้ทุกคนสามารถรับชมร่วมกัน ได้ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ TNN 2 ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 8 และชมผ่านจานดาวเทียมระบบอื่น ๆ และแอปพลิเคชัน HTV ในสมา ร์ตโฟนและแท็บเล็ต (ตรี บุญเจือ, 2562, น.140) และหลังจากนั้นมีการพัฒนาการผลิตรายการในลักษณะดังกล่าว ออกมาให้เห็นทาง สถานีโทรทัศน์อีกหลายรายการ

ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ได้เปิดตัว VIPA ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม OTT ถือเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงเจ้า แรกในประเทศไทย ที่พัฒนานวัตกรรมใหม่ Big Sign ภาษามือใหญ่เต็มจอ โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา ซึ่งกลุ่มผู้ ชมคนหูหนวกสามารถเลือกรับชมเนื้อหาระหว่างจอภาพปกติและจอภาพ Big Sign สามารถเข้าถึงสาระประโยชน์ควบคู่ความบันเทิง ได้พร้อม ๆ กับกลุ่มผู้ชมคนหูดี เข้าถึงเนื้อหาทุกรูปแบบได้อย่างเท่าเทียม (คมชัดลึก ออนไลน์, 2565) จากการทบทวนข้อมูลเกี่ยว กับนวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกในประเทศไทย ทำให้เห็นถึงแนวทางและรูปแบบการผลิตรายการที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อ แก้ไขปัญหาการรับสื่อของคนหูหนวก โดยการศึกษาครั้งนี้ได้ศึกษาการผลิตรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ซึ่งถือเป็นรูปแบบการ ผลิตรายการที่ใช้นวัตกรรมการผลิตด้วยการใช้ทคโนโลยีการสื่อสารในรูปแบบรายการสดผ่านการสตรีมมิงในเฟซบุ๊กและยูทูบ ด้วย ภาษามือเต็มจออีกด้วย

แนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการผลิตรายการ

Wetzel (1990 อ้างถึงในอลิสา ชินคงอำนาจ, 2560, น. 12) กล่าวไว้ว่า การผลิตรายการหลาย ๆ ประเภทจะถ่ายทำกันใน ห้องจัดรายการ โดยมีการวางแผนและเตรียมงานมาเป็นอย่างดีก่อนการถ่ายทำรายการทุกครั้ง โดยทั่วไปการผลิตรายการประกอบไป ด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ขั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ (Preproduction Planning ของการวางแผน ประชุมบุคลากรฝ่ายต่าง ๆ เตรียมงานให้พร้อมก่อนการบันทึกเสียง หรือการถ่ายทำรายการ นับเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญมาก 2. ขั้นเตรียมการผลิตรายการ เป็นขั้นตอนที่ประกอบด้วยการจัดเตรียม และการซ้อม 3. ขั้นการผลิตรายการ คือ ขั้นตอนของการบันทึกเทปรายการหรือถ่ายทอด สด หลังจากที่ทีมงานทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีในวันถ่ายทำจริงจะเป็นการรวมทีมงานมาประจำที่ห้องสตูดิโอหรือพื้นที่ ที่กำหนดให้เป็นสถานที่ถ่ายทำ เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในขณะบันทึกเทปหรือออกอากาศสด และ 4. ขั้นหลังการผลิตรายการ เป็น ขั้นตอนการตัดต่อรายการและประเมินผลการทำงานของทีมงานนับเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตรายการ โดยผู้วิจัยนำแนวคิดนี้มา ใช้เพื่อศึกษาถึงกระบวนการผลิตรายการคนหูหนวกสู้โควิด Live

แนวคิดการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม

แนวคิดการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม เมื่อนำใช้ในการศึกษาเรื่องการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในกระบวนการผลิตรายการคนหู หนวกรู้สู้โควิด Live จึงจำเป็นต้องเข้าใจในระดับของการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก โดยผู้วิจัยใช้ระดับของการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม ของกาญจนา แก้วเทพ และคณะ (2543) เป็นพื้นฐาน ซึ่งได้แบ่งระดับการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมไว้ 3 ระดับ ดังนี้ 1) การมีส่วนร่วมใน ฐานะผู้ชม/ผู้รับสาร/ ผู้ใช้สาร เป็นขั้นตอนระดับล่างสุดของการมีส่วนร่วมได้แก่ การรับชมรายการอยู่เสมอ จดหมายหรือโทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็น ติชม เสนอแนะ รายงานผลการรับชมให้ผู้ผลิตทราบเป็นตัวแทนส่งข่าวสาร ร่วมแจ้งข่าวสารตรวจสอบข่าวสาร กับพื้นที่ร้องทุกข์ ร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ร่วมงานและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เสนอแนะรูปแบบรายการ ช่วยประชาสัมพันธ์ รายการ ฯลฯ 2) การมีส่วนร่วมในฐานะผู้ส่ง/ผู้ผลิต/ผู้ร่วมผลิต/ผู้แสดง เป็นขั้นตอนระดับกลางของการมีส่วนร่วมที่จำเป็นต้องสร้าง เงื่อนไขเพิ่มเติม และ 3) การมีส่วนร่วมในระดับบริหารงาน (Policy Maker) คือ การเป็นผู้วางแผนกำหนดนโยบายเกี่ยวกับรายการ โทรทัศน์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดของการมีส่วนร่วม ลักษณะเด่นของขั้นตอนระดับนี้คือ การเป็นผู้วางแผนกำหนดนโยบายเกี่ยวกับ รายการ โดยในการศึกษาครั้งนี้จะวิเคราะห์การสื่อสารแบบมีส่วนร่วมของคนหูหนวกใน 4 ขั้นตอนของกระบวนการผลิตรายการคน หูหนวกสู้โควิด Live

ระเบียบวิธีวิจัย

งานวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเก็บข้อมูลจาก 2 ส่วน ดังนี้

1. การวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายการ โดยใช้วิธีการจัดสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ ผลิตรายการคนหูหนวกรู้สู้โควิด Live ทั้ง 3 ฝ่าย จำนวนทั้งสิ้น 12 คน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยใช้วิธีการจัดสนทนากลุ่ม เพื่อเก็บข้อมูลจากโปรดิวเซอร์ ครีเอทีฟ พิธีกรคนหูดี พิธีกรคน หูหนวก ล่ามภาษามือ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายการ จำนวนทั้งสิ้น 10 คน

1.2 ผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อเก็บข้อมูลจากผู้อำนวยการหรือผู้แทนจากสำนักสนับสนุนสุข ภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวน 1 คน

1.3 สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อเก็บข้อมูลจากนายกสมาคมคนหูหนวกแห่ง ประเทศไทยหรือผู้แทนคณะกรรมการ จำนวน 1 คน

2. การวิเคราะห์เนื้อหารายการ โดยวิเคราะห์คลิปรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ที่เผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจคน หูหนวกรู้สู้โควิด จำนวนทั้งสิ้น 24 ตอน รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ผลการวิจัย

รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ถือเป็นนวัตกรรมการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวก ในรูปแบบรายการสดผ่านการสตรีมมิง ในเฟซบุ๊กและยูทูบด้วยภาษามือเต็มจอ โดยมีพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามือ ดำเนินรายการร่วมกัน ผู้ชมทั้งคนหูดี และคนหูหนวกสามารถรับชมรายการไปพร้อมกันโดยไม่ต้องมีบริการเสริม เป็นการทำงานของสื่อแบบ Born Accessible ซึ่งเป็นการ สร้างความเท่าเทียมให้คนหูหนวกในการรับสื่อและการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยสามารถสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้

1. กระบวนการผลิตรายการในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

1.1. ชั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ รายการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักสนับสนุนสุขภาวะประขากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และดำเนินการผลิตโดยคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนพิการ โดยเฉพาะคนหูหนวกที่ประสบปัญหากับความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และ การเข้าถึงข่าวสารข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับเรื่องของโรคโควิด-19 และข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ จึงผลักดันการทำสื่อเพื่อการส่งเสริมสุข ภาพให้ครอบคลุมกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

ผู้ผลิตรายการมีการเตรียมความพร้อม โดยได้กำหนดวัตถุประสงค์ รูปแบบ กลุ่มเป้าหมาย และทิศทางของเนื้อหาที่ต้องการ นำเสนอ วันและเวลาในการออกอากาศ โดยสำรวจข้อมูลจากเครือช่ายคนหูหนวกของทีมผู้ผลิตรายการ รวมทั้งความคิดเห็นจากล่าม ภาษามือ และตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศ เพื่อร่วมกำหนดรูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนำเสนอของรายการร่วมกัน เพื่อ จะได้สร้างสรรค์รายการออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการและธรรมชาติการรับสื่อของคนหูหนวกมากที่สุด และเป็นรายการที่ต้องการ ส่งเสริมให้คนหูหนวกมีช่องทางการในการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพ ที่คนหูหนวกสามารถเข้ามามีส่วนร่วม โดยการเลือกประเด็นใน การนำเสนอในแต่ละสัปดาห์ การเตรียมบท การสรรหาบุคคลที่จะมาดำเนินรายการซึ่งมีทั้งพิธีกรที่เป็นคนหูดีและพิธีกรคนหูหนวก แขกรับเชิญในแต่ละตอนที่จะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับเนื้อหาของรายการในแต่ละตอน รวมไปถึงการเตรียมโปรแกรม ที่จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินรายการสมดุลมากขึ้น เนื่องจากเป็นรายการสดที่ออกอากาศในช่องทางออนไลน์ จึงต้องมีความพร้อม เชิง เทคนิคควบคู่กันไปด้วยนั่นเอง

การสรรหาทีมงานจำเป็นต้องเลือกทีมงานที่มีประสบการณ์การทำงานด้านสื่อ และที่สำคัญคือ ต้องมีประสบการณ์การผลิต รายการสำหรับคนพิการมาก่อน ซึ่งหัวหน้าโครงการนี้มีประสบการณ์การผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกมากว่า 10 ปี จึงทำให้สามารถ เข้าใจธรรมชาติการรับสื่อเป็นอย่างดี ถือเป็นข้อได้เปรียบในการผลิตรายการ ส่วนการเลือกพิธีกรและล่ามภาษามือ ก็จำเป็นต้องมีการ เลือกจากบุคคลที่มีประสบการณ์สูงและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อจะสามารถเป็นกระบอกเสียงและดึงดูดให้คนหูหนวกรับชมรายการ และตอบสนองต่อจุดประสงค์ของรายการที่มุ่งจะให้ความรู้และประโยชน์ในเรื่องของโรคโควิด-19 อย่างครบถ้วน ล่ามภาษามือและ พิธีกรจึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับรายการเพราะพวกเขาคือ คนที่จะทำการสื่อสารกับคนหูหนวกโดยตรง และในขั้นตอนการ เขียนบทรายการนั้นมีรายละเอียดที่ต้องดูแลและขั้นตอนการเขียนที่มากกว่ารายการทั่วไป เนื่องจากต้องใช้ภาษาทางการแพทย์ และ เป็นคำศัพท์ใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกันระหว่าง พิธีกกรคนหูหนวกและล่ามภาษามือ และต้องสอดคล้องกับภาษามือ เพื่อให้ผู้ ร่วมรายการและผู้ชมรายการที่เป็นคนหูหนวกเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อสารและรับประโยชน์จากเนื้อหาของรายการได้อย่างครบถ้วน โดย ประเด็นการนำเสนอในรายการในแต่ละครั้งนั้นจะมีความยากในเรื่องของการสำรวจความต้องการจากคนหูหนวก ที่มักได้คำตอบค่อน ข้างแคบและซ้ำกับสิ่งที่ทำมาแล้ว ดังนั้น การเลือกสรรหัวข้อในแต่ละสัปดาห์จึงต้องมีการสำรวจเพิ่มเติมจากบุคคลแวดล้อมคนหูหนวก ว่ามีความสนใจ หรือต้องการความรู้ในเรื่องใด

1.2 ขั้นเตรียมการผลิตรายการ ทีมงานทุกคนต้องเตรียมงานทุกอย่างให้พร้อมภายในห้องจัดรายการและห้องควบคุมห้องจัด รายการก่อนการถ่ายทำทุกครั้ง ทีมงานทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตนเองและควบคุมดูแลซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ ซึ่งในส่วนของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการออนไลน์ที่สตรีมมิงสดผ่านเฟซบุ๊กและยูทูบ จากเดิมที่รายการมีการเผย แพรใน 2 เพจหลัก ก็ได้มีเพิ่มช่องทางการเผยแพร่พร้อมกันถึง 5 ช่องทาง ได้แก่ เพจคนหูหนวกรู้ สู้โควิด / เพจ Thai Deaf TV / เพจปีที่ 6 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2566 | 17 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ / เพจ Deaf Show by Ton และยูทูบชาแนล Thai Deaf TV เพื่อกระจายข้อมูลให้ ถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยในส่วนของขั้นเตรียมการผลิตนั้น ทีมผลิตจะมีการชักซ้อมก่อนวันถ่ายทอดสด เพื่อทำความเข้าใจของ ทั้งพิธีกร แขกรับเชิญ และทีมงาน ให้เข้าใจตรงกันในการสื่อสาร เนื่องจากประเด็นในการนำเสนอแต่ละครั้งมีความสดใหม่ และอาจมี ข้อมูลที่ค่อนข้างยาก จึงจำเป็นต้องนัดหมายเพื่อทำความเข้าใจในการสื่อสารข้อมูลออกไปใหถูกต้องและชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ยังมี การเตรียมความพร้อมในเรื่องของเทคโนโลยี สัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินรายการได้อย่างราบรื่นตลอดระยะเวลา ที่กำหนด

1.3 ขั้นการผลิตรายการ ด้วย เป็นรายการออนไลน์ที่สตรีมมิงสดผ่านเฟซบุ๊กและยูทูบ จึงต้องอาศัยสัญญาอินเทอร์เน็ตเพื่อ เผยแพร่ภาพและเสียงของรายการในรูปแบบของการสตรีมมิง โดยทีมผู้ผลิตใช้แอปพลิเคชันไลน์เพื่อทำหน้าที่ในการสั่งการสื่อสารกัน เพื่อบอกคิวของรายการ และประเด็นต่าง ๆ ที่อาจแทรกเข้ามาในรายการของทีมผู้ผลิตเบื้องหลัง ทีมพิธีกร และล่ามภาษามือในระหว่าง ที่ออกอากาศสด และในส่วนของผู้ชมรายการก็สามารถแสดงคอมเมนต์เข้ามาที่รายการได้เลย โดยพิธีกรผู้ดำเนินรายการก็จะส่งคำถาม ไปยังผู้ร่วมรายการที่สามารถตอบคำถามได้โดยทันที ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมกับผู้เข้าร่วมรายการได้เลย ทำให้มีการสื่อสารระหว่างกัน และทีมงานผู้ผลิตเองก็สามารถนำความคิดเห็นของผู้ชมเป็นข้อมูลหนึ่งในการวางแนวทางปรับปรุงเนื้อหาและรูปแบบรายการในขั้น ตอนของการประเมินผลด้วย

1.4 ขั้นหลังการผลิตรายการ ภายหลังการออกอากาศเสร็จสิ้นแล้วทุกครั้ง ทีมงานจะประชุมเพื่อประเมินผลการทำงาน ของแต่ละฝ่าย เพื่อพิจารณาว่าการทำงานที่ผ่านมานั้นมีข้อบกพร่องควรแก้ไขหรือไม่ อันเป็นแนวทางปรับปรุงการทำงานในการผลิต รายการในครั้งต่อไป รวมทั้งการประชุมเรื่องการวางเนื้อหาในสัปดาห์ต่อไป โดยเลือกประเด็นที่ผู้ชมนำเสนอเข้ามาในรายการ โดยรวม แล้วรายการมีผลตอบรับที่ดี มีผู้ชมให้ความสนใจมากขึ้น เป็นรายการที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ก็ มีส่วนที่ต้องพัฒนาทั้งในแง่ของการประชาสัมพันธ์และตัวของรายการเองที่จะนำเสนอเนื้อหาให้เข้าถึงง่ายขึ้น กล่าวโดยสรุป การผลิต รายการนั้นมีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้นหน้างานมากมาย เนื่องจากเป็นรายการสด และความยากในการประสานงานเนื่องจากทีมงาน และผู้ร่วมรายการไม่ได้พบกันก่อน ทำให้เนื้อหาบางช่วงมีความตกหล่น การดำเนินรายการไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ การควบคุมเวลา ยังไม่ดีพอ รวมไปถึงปัญหาเชิงเทคโนโลยีและสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็เป็นอุปสรรคทั้งจากของฝั่งผู้ผลิตรายการเอง และฝั่งผู้ชมทางบ้าน ด้วยที่ไม่สามารถรับสารได้อย่างครบถ้วน

คนหูหนวกสามารถเข้ามามีบทบาทและการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตรายการใน 2 ระดับ คือ 1. การมีส่วน ร่วมในฐานะผู้รับสาร อันหมายถึง ผู้ชมรายการทั้งคนหูหนวกและคนหูดี สามารถฝากคำถามและเข้ามาร่วมในรายการได้ 2. การมีส่วน ร่วมในฐานะผู้ผลิตรายการ โดยตัวแทนคนหูหนวกเข้ามามีบทบาทการเป็นพิธีกร ดำเนินรายการ มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตรายการ ตั้งแต่ขั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ ขั้นเตรียมการผลิตรายการ ขั้นผลิตรายการ และขั้นหลังผลิตรายการ

2. รูปแบบและเนื้อหาของรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live

2.1 ด้านรูปแบบการนำเสนอ พบว่า รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการสัมภาษณ์ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยว การดำเนินชีวิตในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยวางบทบาทพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามืออย่าง สมดุล เป็นรายการที่พิธีกรหูหนวกใช้ภาษามือเต็มจอระหว่างการพูดคุยกับพิธีกรคนหูดีและแขกรับเชิญในรายการ โดยมีล่ามภาษามือ ช่วยสื่อสาร 2 ทาง กล่าวคือ 1. การแปลภาษาพูดเป็นภาษามือให้กับคนหูหนวก 2. การแปลภาษามือเป็นเสียงบรรยายให้กับคนหูดี โดยทั้งพิธีกรคนหูดี พิธีกรคนหูหนวก และล่ามภาษามือ มีบทบาทในการนำเสนอรายการอย่างเท่าเทียมกัน ถือเป็นการทำงานของสื่อ แบบ Born Accessible ที่สร้างความเท่าเทียมในการรับสื่อตั้งแต่ขั้นต้นของการผลิต

นอกจากนี้รายการยังมีการใช้ภาพ วิดีโอ ประกอบในรายการเพื่อสร้างความเข้าใจ โดยในแต่ละตอนจะมีพิธีกรที่ทำหน้าที่ ดำเนินรายการ 2 คน และบางตอนจะมี 3 คน และหากตอนใดที่มีแขกรับเชิญในรายการจำนวนมาก ทางรายการจะมีการเพิ่มจำนวน ล่ามภาษามืออีก 1 คน โดยความยาวของรายการตอนละ 1 ชั่วโมง แบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก คือช่วงที่ 1 การให้ความรู้ด้านสุขภาพโดยสัมภาษณ์วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ช่วงที่ 2 ช่วงเล่นเกมตอบคำถามเพื่อลุ้นรับของที่ระลึกจากทางรายการ โดยผู้ชมรายการทั้งคนหู หนวก และคนหูดี สามารถฝากคำถามในรายการได้ 4 รูปแบบ คือ 1. ข้อความ 2. คลิปวิดีโอ 3. ถามสดร่วมจอขณะถ่ายทอดสด และ 4. คอมเมนต์ขณะถ่ายทอดสด โดยตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย อธิบายเพิ่มเติมว่า การวางรูปแบบการนำเสนอของรายการนี้สามารถ ทำให้คนหูหนวกสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเอื้อประโยชน์ให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมกับรายการได้เป็นอย่างดี สามารถนำความรู้ที่ ได้จากรายการไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างเท่าเทียม

2.2 ด้านเนื้อหา พบว่า เนื้อหารายการส่วนใหญ่เน้นเรื่องของการให้ความรู้และแนวทางการดำเนินชีวิตในช่วงที่มีการระบาด ของไวรัสโควิด-19 มีเนื้อหาหลากหลายมิติที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของคนหูหนวกที่อาจได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่น เรื่อง สายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 เรื่องการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เรื่องการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทาง เลือก เรื่องหลักธรรมนำชีวิต เรื่องการฟื้นฟูร่างกายหลังหายป่วยโควิด เรื่องการเสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพจิตในวิกฤตโควิด-19 เรื่องการ ผลิตสื่อของคนหูหนวกเพื่อรู้เท่าทันโควิด-19 รวมทั้งในประเด็นของการที่คนหูหนวกต้องรู้เท่าทันมิจฉาชีพและกลโกงออนไลน์ และใน เรื่องของการสร้างรายได้ให้คนหูหนวกรู้ทันอาชีพใหมในยุคโควิด-19 ที่จะสามารถปรับตัวได้ เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าเนื้อหาเหล่านี้ถูก สร้างมาเพื่อเป็นเสมือนทางออก หรือส่งเสริมแนวการการดำเนินชีวิตให้คนหูหนวกสามารถรับมือด้านต่าง ๆ ได้ โดยอีกวิธีการหนึ่งใน การสำรวจความต้องการความรู้ของคนหูหนวก คือการทำแบบสอบถาม และการนำข้อมูลจาก สสส. มาเป็นแนวทางในการกำหนด หัวข้อในรายการของแต่ละสัปดาห์ โดยเน้นจาก 2 ประเด็นคือสิ่งที่คนหูหนวกจำเป็นต้องรู้ และสิ่งที่คนหูหนวกต้องการที่จะรู้จากการ ถามคำถาม

ส่วนในด้านแขกรับเชิญหรือวิทยากรที่มาร่วมรายการส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นบุคลากรทางสาธารณสุข เนื้อหา รายการจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เป็นเนื้อหาที่มีคำศัพท์ทางการแพทย์ หรือเชิงวิซาการ รวมทั้งเป็นคำศัพท์ใหม่ ๆ ทางรายการ จึง จำเป็นต้องย่อยประเด็นเหล่านั้น ทำให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับคนหูหนวกเหมือนกัน มีคำ ศัพท์ใหม่ ๆ ที่อาจยังไม่มีภาษามือ หรือใช้คำศัพท์ในการสื่อสารค่อนข้างยากต่อความเข้าใจของคนหูหนวก จึงจำเป็นต้องมีการหาข้อมูล ประกอบเพื่อทำความเข้าใจก่อนการผลิตรายการทั้งในส่วนของพิธีกร

ล่ามภาษามือ แขกรับเชิญ และทีมงานของรายการร่วมกันให้ชัดเจน โดยทางรายการจะเปิดโอกาสให้ผู้ชมรายการสามารถ ร่วมกำหนดประเด็นหรือหัวข้อในรายการได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกกับรายการ ได้ด้วย ซึ่งทางผู้ผลิตรายการต้องการเปิดโอกาสให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตรายการ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญในกระบวนการ ผลิตรายการนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตมองว่า สิ่งที่ถือเป็นนวัตกรรมการผลิตรายการครั้งนี้ เป็นเรื่องของการใช้เทคโนโลยี การสื่อสารสำหรับการผลิตรายการในรูปแบบรายการสดผ่านการสตรีมมิงในเฟซบุ๊กและยูทูบ ที่สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมรายการ ทั้ง คนหูดี และคนหูหนวก รวมทั้งในส่วนการผลิตรายการก็มีทั้งคนหูดีและคนหูหนวกทำงานร่วมกัน โดยมีล่ามภาษามือเต็มจอตลอด ทั้งรายการ และมีการใช้กราฟิกต่าง 1 ที่สอดรับกับธรรมชาติการรับสื่อของคนหูหนวก

จะเห็นได้ว่า รายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการที่ผลิตขึ้นเพื่อให้คนพิการโดยเฉพาะคนหูหนวกสามารถเข้าถึงและ รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่สามารถเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยในมุมมองของทีม ผู้ผลิต สิ่งที่ต้องพัฒนาต่อในอันดับแรก ๆ นั่นคือ การเขียนบทรายการคนหูหนวกทุกอย่างต้องมากขึ้น รวมไปถึงรูปแบบการใช้คำ หรือ คำศัพท์ ไม่ควรใช้คำยาก อย่างไรก็ตามทีมงานผู้ผลิตก็มองว่า คนหูหนวกมีความสามารถในการที่จะเป็นพิธีกรดำเนินรายการได้ เพียง แต่ต้องเตรียมบทรายการที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการผลักดันให้คนในสังคมเห็นถึงศักยภาพด้านการผลิตสื่อของ คนหูหนวกได้อีกด้วย ดังนั้น สำหรับแนวทางการพัฒนารายการสำหรับคนหูหนวก ควรจะเน้นในเรื่องของการเตรียมข้อมูลและการ เขียนบทให้คนหูหนวกสามารถเข้าใจเรื่องที่ต้องการนำเสนอได้อย่างชัดจนยิ่งขึ้น อีกทั้งในเรื่องของการประชาสัมพันธ์และการร่วมกับ หน่วยงานอื่น ๆ เพื่อช่วยเผยแพร่รายการ หรือเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์แก่คนหูหนวกก็เป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาต่อไป

อภิปรายผล

1. เข้าถึง เข้าใจ: การผลิตสื่อเพื่อคนหูหนวก จากผลการศึกษากระบวนการผลิตรายการในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live นั้น เกิดจากการผลักดันและร่วมมือกันของภาคสังคม นำโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) หนึ่งในหน่วยงาน สำคัญของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และสมาคมคนหูหนวก แห่งประเทศไทย ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานมีเป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างการรับรู้และนำไปใช้ประโยชน์ของคนหูหนวก จึงทำให้ สามารถผลิตรายการนี้เกิดขึ้นมาได้ หากแต่การผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกโดยเฉพาะในสื่อหลักของภาคธุรกิจ อาจยังมีจำนวนไม่มากเท่า ที่ควร เนื่องจากมีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการผลิตรายการหลายประการ ดังที่ พัชรินทร์ ผากา (2559) ที่ได้ศึกษาเรื่อง "นวัตกรรม รูป แบบรายการโทรทัศน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก" โดยศึกษารายการใจเท่ากัน ซึ่งผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดในการผลัก ดันให้เกิดรายการโทรทัศน์สำหรับคนหูหนวก ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้ส่งสาร และปัจจัยด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากคนหูหนวกในประเทศไทยมี จำนวนน้อย ไม่คุ้มค่าการลงทุน จึงไม่ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตสื่อ แต่รายการใจเท่ากันได้รับการสนับสนุนจากองค์กรผู้ผลิตสื่อเพื่อสนอง ต่อประโยชน์สาธารณะ ไม่มุ่งแสวงหากำไร จึงสามารถผลิตรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีได้

การเข้าถึงสื่อของคนหูหนวก ยังเป็นสิ่งที่ต้องถูกผลักดันจากหลายภาคส่วนของสังคม ด้วยข้อจำกัดทางด้านร่างกายของคนหู หนวกในการรับสื่อ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ผลิตสื่อ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการผลิตสื่อที่สอดรับกับ ธรรมชาติของรับสื่อและการใช้งานของคนหูหนวกมากที่สุด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ สื่อต้องเป็นเสมือนผู้นำทางสังคม ต้องทำหน้าที่กระจายความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้คนทั่วไป และโดยเฉพาะคนพิการ สามารถ รับรู้ข้อมูลข่าวสารและนำมาปฏิบัติใช้กับตนเองและคนรอบข้างได้อย่างทันท่วงทีและถูกต้อง การส่งเสริมให้คนพิการสามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้นั้น จึงต้องมีการขับเคลื่อนในหลายภาคส่วน ทั้งด้านผู้ผลิต ผู้รับสื่อ และภาคสังคม ดังที่ตรี บุญเจือ (2562) ได้อธิบายแนวคิดที่ ต้องตอบสนองความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านกิจการโทรทัศน์เป็น 3 มิติ คือ 1) มิติของคนพิการในการเป็นผู้เสพสื่อโทรทัศน์ โดยคนพิการต้องการเสพสื่อโทรทัศน์ทุกประเภทและทุกรูปแบบในเวลาที่หลากหลายเช่นเดียวกับคนทั่วไป และคนพิการแต่ละประเภทรับ รู้สื่อโทรทัศน์แตกต่างกัน จึงต้องลดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ต่างกันไปตามประเภทของความพิการ 2 มิติของการเป็นผู้ร่วม ผลิตสื่อที่สื่อสารมวลชนควรรับรู้เกี่ยวกับคนพิการ และ 3 มิติของสังคม โดยการที่สังคมมองว่าคนพิการเป็น "คนอื่น" ไม่ใช่พวกเรา เป็น ปัญหาสำคัญเมื่อคนอื่นกลายเป็นคนชายขอบ

จะเห็นได้ว่า หากมีการส่งเสริมและผลักดันให้มีการผลิตสี่อ รายการโทรทัศน์ หรือรายการออนไลน์สำหรับคนหูหนวก หรือคน พิการอื่น ๆ ในภาคธุรกิจกิจของสื่อเชิงพาณิชย์มากขึ้น รวมทั้งความร่วมมือจากภาคสังคม ก็จะสามารถ ทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตสื่อเพื่อให้คนหูหนวกสามารถเข้าถึงสื่อและใช้ประโยชน์จากสื่อได้อย่างเท่าเทียมกับประชากรกลุ่ม อื่น ๆ โดยทั้งนี้สามารถนำผลการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตรายการ รูปแบบ และเนื้อหาในรายการคนหูหนวกรู้ สู้โควิด Live ไปเป็น ตัวอย่างในการพัฒนารายการเพื่อคนหูหนวกต่อไปได้

การผลิตสื่อรายการเพื่อคนหูหนวกนั้นต้องมีความเข้าใจพฤติกรรมในการเปีดรับสื่อ และธรรมชาติของการรับสื่อของคนหูหนวก รวมทั้งผู้ผลิตรายการมีการเตรียมความพร้อม โดยสำรวจข้อมูลจากเครือข่ายคนหูหนวกของทีมผู้ผลิตรายการ รวมทั้งความคิดเห็นจากล่าม ภาษามือ และตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศ เพื่อร่วมกำหนดรูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนำเสนอของรายการร่วมกัน เพื่อ จะได้สร้างสรรค์รายการออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการและธรรมชาติการรับสื่อของคนหูหนวกมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ว่า รายการคนหู หนวกรู้ สู้โควิด Live เป็นรายการที่มุ่งเน้นการให้ความรู้กับคนหูหนวกในรูปแบบของรายการออนไลน์ ที่สอดกับรับพฤติกรรมการรับสื่อ ของคนหูหนวก สอดคล้องกับการศึกษาของศิวนารถ หงษ์ประยูร (2558) ที่ได้อธิบายไว้ว่า คนหูหนวกนิยมสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เพราะ เป็นการสื่อสาร 2 ทาง เพราะคนหูหนวกชอบการมี Feedback หลังจากที่สื่อสารออกไป โดยคนหูหนวกส่วนใหญ่นิยมการแชต MSN และ แชตอื่น ๆ รวมทั้งการสื่อสารผ่านภาพเคลื่อนไหว คนหูหนวกนิยมชมคลิปในยูทูบมาก เพราะเป็นภาพ และคนหูหนวกนิยมสื่อสารผ่าน Social Network เพราะไปตอบสนองความต้องการของคนหูหนวก คือ ต้องการการพูดคุยในชุมชน ใช้ภาษาไม่มาก ใช้คำสั้น ๆ และเป็นความรู้สึกว่าไม่แตกต่างจากคนทั่วไป และยังสอดคล้องกับผลการศึกษาของพรพรรษา พิมพ์กระจ่าง (2560) ที่ได้ศึกษาเรื่อง "การศึกษา พฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บกพร่องทางการได้ยิน" จากผู้บกพร่องทางการได้ยินทั้ง 4 กลุ่มช่วงวัย คือ กลุ่ม 13-18 ปี กลุ่ม 19-25 ปี กลุ่ม 26-49 ปี และ 50 ปีขึ้นไป โดยผลการวิจัยพบว่า ผู้บกพร่องทางการได้ยิน มีการใช้สื่อออนไลน์เป็นประจำ แม้กระทั่งในช่วงเวลา เรียนและช่วงวันหยุด ส่วนความต้องการพื้นฐานของผู้บกพร่องทางการได้ยินที่มีต่อสื่อออนไลน์ พบว่า ยังคงมีความต้องการล่ามภาษามือ เพื่อแปลข้อความที่พบเห็นในสื่อออนไลน์ อันเนื่องมาจากภาษามือคือภาษาแรกของผู้บกพร่องทางการได้ยิน และพบอีกประเด็นที่น่าสนใจ คือต้องการให้มีสติกเกอร์ในรูปแบบภาษามือ เพื่อง่ายต่อการแสดงความรู้สึกและแผนข้อความในการติดต่อสื่อสารอีกด้วย โดยล่ามภาษา มือถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนหูหนวกที่จะใช้ในการเปิดรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ดังเช่นผลการศึกษาของ มณีรัตน์ ศิริปัญจนะ (2557) ที่พบว่า คนหูหนวกที่รับชมรายการโทรทัศน์ที่มีล่ามภาษามือ จะมีประสิทธิผลการรับรู้ที่ดีกว่าคนหูหนวกที่รับชมรายการโทรทัศน์ที่ไม่มี ล่ามภาษามือ ซึ่งคนหูหนวกที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษาแตกต่างกัน จะมีการรับรู้ และเข้าใจข้อมูลข่าวสารจากรายการโทรทัศน์ที่ไม่ แตกต่างกัน ทั้งนี้คนหูหนวกมีการรับรู้และเข้าใจข้อมูลข่าวสารจากรายการโทรทัศน์ประเภทรายการสารคดีมากที่สุด รองลงมาคือ รายการ ข่าว และรายการสนทนา โดยเมื่อรับชมรายการแล้วคนหูหนวกจะเข้าใจในบทสรุปของเนื้อหามากที่สุด

คนหูหนวกนอกจากจะมีปัญหาในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์แล้ว ยังมีอุปสรรคในเรื่องของการสื่อสารด้วย โดยหลายคน จำเป็นต้องนัดล่ามไปพบแพทย์ด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของผู้พิการทางการได้ยินที่มีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร ความบกพร่อง ทางการได้ยินอาจจะมีปัญหาในการใช้ภาษา กล่าวคือ ใช้ภาษาค่อนข้างจำกัด และไม่ถูกหลักไวยากรณ์ รู้คำศัพท์ในวงจำกัด ไม่สามารถนำ ศัพท์ไปใช้ในประโยคที่หลากหลายตามแต่ละสถานการณ์ได้ อาจใช้คำสลับที่กัน หรือการเขียนที่บกพร่อง (เกยูร วงศ์ก้อม, 2548, น. 8) ทำให้การสื่อสารกับบุคคลอื่นมีอุปสรรค ควรต้องมีล่ามภาษามือเดินทางไปด้วยเมื่อมีธุระสำคัญ ดังนั้นในรายการนี้ล่ามภาษามือจึงมีบทบาท และมีความสำคัญมากในการที่จะแปลสารไปถึงคนหูหนวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางรายการพยายามช่วยให้ข้อจำกัดนี้ลดลง ทั้งการ ใช้ภาษามือเต็มจอ การเปิดโอกาสให้คนหูหนวกได้สนทนากับแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ตามวัตถุประสงค์ของรายการที่ พยายามจะให้ความรู้ข่าวสารในเรื่องของโรคโควิด-19 และช่วยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนหูหนวกมีแนวทางในการปรับตัวและใช้ชีวิตในช่วง ภาวะวิกฤติเช่นนี้

2. เข้าไปมีส่วนร่วม: คนหูหนวกกับการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม รายการนี้เปิดโอกาสให้คนหูหนวก เข้ามามีบทบาทและมีส่วน ร่วมในรายการ 2 ระดับ กล่าวคือ 1. การมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร และ 2. การมีส่วนร่วมในฐานะผู้ผลิต โดยทางรายการมุ่งเน้นให้ผู้ชม รายการคนหูหนวกสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในรายการด้วยการฝากคำถามในรายการได้ 4 รูปแบบ คือ 1. ข้อความ 2. คลิปวิดีโอ 3. ถาม สดร่วมจอขณะถ่ายทอดสด และ 4. คอมเมนต์ขณะถ่ายทอดสด และในส่วนของฐานะผู้ผลิตคนหูหนวกเข้ามามีบทบาทในการเป็นพิธีกรดํ าเนินรายการ มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตรายการตั้งแต่ขั้นวางแผนก่อนการผลิตรายการ ขั้นเตรียมการผลิตรายการ ขั้นผลิตรายการ และขั้นหลังผลิตรายการ การผลักดันให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมในรายการนั้น ทำให้คนหูหนวกสามารถแสดงศักยภาพของตนเองได้ ผ่านบทบาทของพิธีกรที่จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับสังคมคนหูหนวกอีกด้วย รวมทั้งการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร ก็ จะเป็นผลดีต่อการสร้างสรรค์เนื้อหา รูปแบบการนำเสนอของรายการตอบโจทย์ความต้องการของคนหูหนวก เป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ร่วมกันที่เคารพทุกความคิดเห็น และผู้ผลิตสามารถนำความคิดเห็นต่าง ๆ มาปรับปรุงพัฒนารายการต่อไปให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้อง กับแนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ Shirley A. White, et al (1994 อ้างถึงในชลลดา กิจรื่นภิรมย์สุข, 2548, น. 17) ที่ได้สรุปแนวคิด การสื่อสารแบบมีส่วนร่วมไว้ว่า หัวใจสำคัญของกระบวนการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม (Participatory Communication Process) คือ กระบวนการร่วมกันคิด ร่วมรับฟัง และเคารในความคิดของผู้อื่น ตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกในชุมชน ร่วมวิเคราะห์ประเด็น ปัญหาทางสังคม แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน ตลอดจนกระบวนการร่วมกันค้นหาแนวทางและตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งทางทีมงาน ผู้ผลิตรายการก็พยายามกระตุ้นให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมกับรายการด้วยการซักถาม ติชม แสดงความคิดเห็น และเปิดโอกาสให้เสนอ แนะประเด็นที่น่าสนใจเพื่อนำมาสู่การจัดทำเนื้อหาของรายการในประเด็นต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับที่สุดถนอม รอดสว่าง (2561)ได้อธิบายไว้ว่า รายการภาษามือเต็มจอควรจะสนับสนุนความสามารถของคนพิการทางการได้ยินให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ด้วยการส่งเสริมให้คนหูหนวกได้มีส่วนร่วมในการผลิตรายการและเปิดโอกาสให้คนหูหนวกเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอประเด็นหรือกำหนดทิศทาง ของเนื้อหาของบทรายการที่เหมาะสมกับคนหูหนวก เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจความแตกต่างและยอมรับในศักยภาพของคนหูหนวก ส่ง ผลให้คนทั่วไปและคนหูหนวกได้เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น นอกจากนี้ผู้เขียนบทควรทำการศึกษารายการโทรทัศน์ภาษามือเต็มจอของ ต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จเพื่อเป็นตัวอย่างในการพัฒนา รายการโทรทัศน์ภาษามือเต็มจอของไทย และพัฒนารูปแบบรายการให้ สร้างสรรค์ ตอบโจทย์ความต้องการของคนพิการ รวมทั้งบทต้องไม่แยกคนพิการออกจากการรับชมรายการของคนทั่วไปเพื่อให้ทุกคน สามารถดูรายการโทรทัศน์เพื่อเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้

อย่างไรก็ดี การสื่อสารแบบมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในกระบวนการผลิตรายการนั้นจะมีส่วนร่วมในฐานะผู้รับสาร และมีส่วน ร่วมในฐานะผู้ผลิตเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในฐานะผู้วางแผนและกำหนดนโยบายได้ หรือในระดับบริหารได้ ซึ่งอาจเป็น เพราะปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องทั้งด้านการเข้าถึงสื่อ ด้านเงินทุน และด้านทักษะการผลิตสื่อ เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของพัชรินทร์ ผากา (2559) ที่ผลการศึกษาพบเช่นกันว่าในกระบวนการผลิตรายการโทรทัศน์ใจเท่ากันเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคนหูดี และคนหู หนวก ซึ่งสามารถแบ่งระดับการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม ได้แก่ การมีส่วนร่วมในฐานะผู้ชม และการมีส่วนร่วมในฐานะผู้ส่งสาร โดยพิธีกร ซึ่งเป็นทีมงานคนหูหนวกได้มีส่วนร่วมในระดับนี้มากที่สุด แต่ยังไม่พบการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกในระดับบริหาร เพราะถึงแม้ทีมงาน คนหูหนวกจะไม่มีความรู้ในด้านสื่อโทรทัศน์มาก่น แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติจริงก็สามารถเข้าใจกระบวนการผลิตรายการ โทรทัศน์ รวมทั้งมีส่วนช่วยเหลือในการทำงานได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามพบว่า คนหูหนวกในประเทศไทยที่มีความรู้ มีศักยภาพในการ ทำงาน และสนใจศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ยังมีจำนวนน้อย เพราะฉะนั้นหากในอนาคตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคนหูหนวก ทั้งสมาคมคน หูหนวกแห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หรือหน่วย งานอื่น ๆ สามารถเข้ามาผลักดันและสนับสนุนงบประมาณในการผลิตสื่อเพื่อคนหูหนวกและคนพิการอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น หรือการร่วมกัน ผลักดันให้คนหูหนวกเข้าไปมีส่วนร่วมในระดับบริหารได้ ก็จะส่งผลต่อรูปแบบและเนื้อหารายการที่จะผลิตขึ้น ที่จะสามารถสะท้อนตัวตน ของหูหนวกและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนคนหูหนวก

องค์ความรู้ใหม่จากการวิจัย

ผู้วิจัยพบโมเดลของกระบวนการผลิตรายการสดในรูปแบบออนไลน์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับประเด็นสุขภาพ สำหรับคนหูหนวก รวมทั้งรูปแบบ เนื้อหา และวิธีการนำเสนอ โดยองค์กรสื่อ หน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับคนหูหนวกหรือคนพิการสามารถนำองค์ความ รู้นี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนารายการ หรือเป็นช่องทางในการส่งเสริมให้คนพิการเข้าถึงสื่อ สามารถแสดงศักยภาพด้านการผลิตสื่อ และใช้ประโยชน์จากสื่อได้อย่างเท่าเทียม

ข้อเสนอแนะ

1. สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย และเครือข่ายทั่วประเทศ สามารถนำผลการวิจัยครั้งนี้ไปศึกษากระบวนการผลิต รายการเพื่อคนหูหนวก เพื่อผลักดันให้เกิดการส่งเสริมให้คนหูหนวกเข้ามามีบทบาทด้านการผลิตสื่อเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการ ผลิตรายการเพื่อให้คนหูหนวกสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้และนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้

2. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส. ในฐานะผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการ สามารถนำข้อค้นพบเกี่ยวกับ รูปแบบและเนื้อหา รวมทั้งกระบวนการผลิตรายการเพื่อให้ความรู้กับคนหูหนวกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์วิกฤติสุขภาพอื่น ๆ ต่อไปได้

3. องค์กรสื่อต่าง ๆ สามารถนำองค์ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบ เนื้อหา และกระบวนการสร้างสรรค์รายการที่สร้างการมีส่วน ร่วมของคนหูหนวก และไปประยุกต์ใช้และพัฒนาการผลิตรายการเพื่อคนหูหนวกต่อไปได้ รวมทั้งภาคส่วน ที่มีส่วนผลักดันเกี่ยวกับ สื่อเพื่อคนหูหนวก

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา แก้วเทพ และคณะ. (2543). สื่อเพื่อชุมชน : การประมวลองค์ความรู้.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

เกยูร วงศ์ก้อม. (2548). ความรู้ทั่ไปเกี่ยวกับการศึกษาพิเศษ. เพทายการพิมพ์.

คชรักษ์ แก้วสุราช. (2563, 15 มิถุนายน). สื่อคือแสงของคนหูหนวกในช่วงวิกฤต ?. https://thisable.me/content/2020/ 06/629

คมชัดลึก ออนไลน์. (2565, 21 ตุลาคม). Big Sign ภาษามือใหญ่เต็มจอ นวัตกรรมความสุขเพื่อคนหูหนวกจาก VIPA. https://www. komchadluek.net/pr/533934

ชลลดา กิจรื่นภิรมย์สุข. (2548). การศึกษาสถานะขององค์ความรู้ ด้านการสื่อสารและการมีส่วนร่วมในวิทยานิพนธ์สาขานิเทศศาสตร์ พัฒนาการของไทย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตรี บุญเจือ. (2562). คนพิการกับการเข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากกิจการโทรทัศน์. วารสารวิชาการ กสทช. ประจำปี 2562, 3(3), 121-146.

พรพรรษา พิมพ์กระจ่าง. (2560). การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บกพร่องทางการได้ยิน (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

พัชรินทร์ ผากา. (2559). นวัตกรรมรูปแบบรายการโทรทัศน์และการมีส่วนร่วมของคนหูหนวก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

มณีรัตน์ ศิริปัญจนะ. (2557). ประสิทธิผลด้านการรับรู้และความเข้าใจข้อมูลข่าวสารของคนหูหนวกจากรายการโทรทัศน์ผ่าน ล่ามภ าษามือ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตม่ได้ตีพิมพ์. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศิวนารถ หงษ์ประยูร. (2558). การพัฒนารายการข่าวทางสื่ออินเทอร์เนตทีวี (IPTV) สำหรับคนหูหนวก. วารสารสุทธิปริทัศน์, 29(90), 291-312.

สุดถนอม รอดสว่าง. (2561). แนวทางการเขียนบทรายการโทรทัศน์ภาษามือเต็มจอสำหรับคนพิการทางการได้ยิน. วารสารนิเทศศาสตร์ ธุรกิจบัณฑิตย์, 12(2), 325-355.

เสรี เรือนหล้า. (2543). รูปแบบและกลวิธีการดำเนินเรื่องในการจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ตามความต้องการของนักเรียน นักศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยแมโจ้

อลิสา ชินคงอำนาจ. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกรับชมรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง [การค้นคว้า อิสระปริญญามหาบัณฑิต. มหวิทยาลัยธรรมศาสตร์. http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2017/ TU 2017 5902031334 7344 6087.pdf

voice online. (2554, 1 ตุลาคม). หัตถภาษานานาข่าว รายการข่าวของคนหูหนวก. https://www.voicetv.co.th/read/ 19584

JSL Global Media. (2564, 4 พฤษภาคม),. รายการ D-มีดี EP8 นายกสมาคมคนตาบอด และคนหูหนวกทำสื่อ กับเรื่องราว .. คนพิการเสพสื่ออะไร มีภาษามือ]. https://www.youtube.com/watch?v=ciQ9Eqnmc30



arrow-prev ย้อนกลับ